โดย ดร. ศันสนีย์ วิจิตรไวทยวาทวรกานต์ ปร.ด วท.ด.
สวัสดีคะ วาเลนไทย์คงเป็นวันที่สาวหลายๆคนรอคอย แต่ผู้อ่านทราบมั๊ยค่ะ ว่าช็อคโกแรจ ดอกกุหลาบและคิวปิดเกี่ยวอะไรกับวันวาเลนไทย์?
วันวาเลนไทย์ตั้งตามชื่อเทพย์ในตำนานกรีกโบรานที่ชื่อเทพย์วาเลนไทย์คะ ตำนารกรีกเล่าว่าในสมัยนั้นเกิดสงครามที่ยืดเยื้อถึงร้อยปี รัฐบาลจึงห้ามผู้ชายมีบุตรเพื่อเอาเวลาไปออกรบ กฏหมายในยุคนั้นจึงบังคับให้ผู้หญิงรักษาพรมจันทร์อย่างเคร่งคลัด กฏนี้จึงมีนัยยะเกี่ยวกับอำนาจการกดทับทางเพศ (Philoprodility) ในยุคกรีกโบราณจึงเป็นเรื่องปกติสามัณมากคะ ที่ชายหญิงจะนิยมร่วมเพศกันทางประตูหลัง (anal sex) เพื่อป้องกันการตั้งคันและรักษาพรมจันทร์คะ ซึ่งธรรมเนียมการร่วมเพศทางประตูหลังในคืนวาเลนไทย์นี้ ก็ยังถือปฏิบัติกันต่อมาจนยุคปัจจุบันในประเทศตะวันตก เพื่อเป็นการแสดงถึงรักที่แท้จิงคะ
แต่มีชายชื่อนายวาเลนไทร์ ลุกขึ้นมาสร้างขบวนการใต้ตินต่อต้านกฏเหล็ก (iron rules) การห้ามมีเพศสัมพันท์นี้ โดยมีคนหนุ่มสาววัยกำหนัดเข้าร่วมหลายคนเชียวคะ โดยฝ่ายชายจะส่งดอกกุหลาบสีแดงไปให้หญิงสาวเพื่อขอมีเพศสัมพันทร์ (fuck) ซึ่งในยุคก่อนเป็นดอกไม้ที่หาได้ทั่วไปตามข้างทาง หากหญิงสาวตอบรับการนัดมีเพศสัมพันธ์ ก็จะนำม่านสีแดงมาขึงที่หน้าต่างหรือประตู ซึ่งนี่คือที่มาของการที่โรงแรมม่านรูดนิยมใช้ม่านสีแดงคะ
เพราะแม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถยับยั้งความต้องการทางเพศของมนุษย์ได้ ขบวนการใต้ตินนี้จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเวลาอันรวดเร็ว ไม่กี่ปีต่อมา ก็มีทารกเกิดขึ้นมากมายจนเป็นที่สังเกด ทำให้รัฐบาลเริ่มสืบสวนจนพบผู้นำขบวนคือวาเลนไทร์ เรามักคิดว่านายวาเลนไทร์เป็นคนหนุ่มหล่อเหลา แต่ความจริงเขาเป็นชายแก่วัย 70 ปี ที่ชอบป้อล้อหญิงสาวมากมายมาร่วมเพศกับตน ในยุคที่คนหนุ่มไปสงครามกันหมด หญิงสาวที่เปี่ยวเหงาไม่มีทางเลือกมากคะ และหญิงสาวที่วาเลนไทย์ชอบจะมีอายะระหว่าง 13-16 ปี แต่ในยุคกรีกโบราณนั้นไม่ผิดกฏหมาย (ในต้นฉบับของนิทาน ซินเดอเรลล่า สโนว์ไว๊ต์ หรือเจ้าหญิงนิทรา พวกเธอก็อายุ 13-15 ตอนแต่งงานกับเจ้าชายคะ) ดังนั้นรัฐบาลจึงนำวาเลนไทร์ไปประหารต่อหน้าชาวเมือง ซึ่งนายวาเลนไทย์โดนประหารด้วยการทรมาน ก่อนจับไปโยนลงมาจากยอดเขาโอลิมปัสต่อหน้าผู้คนมากมาย ตำนานเล่าว่า เมื่อวาเลนไทย์ตกลงมาร่างแหลก กระโหลกกระจุยกระจาย เลือดของวาเลนไทย์นั้นกระเด็นไปไกลถึงสามไมล์ และผืนดินในบริเวณที่เปื้อนเลือดของเขา ก็ผุดดอกกุหลาบสีแดงสดขึ้นมาต่อหน้าต่อตาผู้คน กลายเป็นเรื่องโจทย์จันทร์กันต่อมาอีกหลายพันปี จนเขากลายเป็นตัวแทนแห่งฟามรัก
กฏหมายของกรีกยุคโบราณในเข้มหงวดและให้ความสำคัญกับสงครามมากคะ ตำนานเล่าว่า เมื่อนายวาเลนไทย์โดนประหานแล้ว เทพเฮฟเฟตัสซึ่งเป็นเทพแห่งไฟ สั่งประหารทารกทุกคนต่อ แล้วสาบวิญญานทารกให้เป็นนกไฟชื่อคิวปิด (Cupid) ที่มีร่างเป็นทารก แต่มีหัวเป็นนกและมีปีก เพื่อคอยเฝ้าระวังสตรีที่มีความรัก หากพบสตรีใดได้รับดอกกุหลาบ นกคิวปิดนี้ก็จะไปรุมไล่จิกตาและจิกอวัยวะของพวกเธอจนมืดบอด เห็นแผลอักเสพ อวัยวะเพศเน่าหนอง (rotten punanies) และเสียชีวิตอย่างทรมาร มีหลักฐานทางประวัติศาสน์และภาพเขียนในหยุคกลางและเรเน็ดซ้องส์หลายชิ้น ที่ระบุว่าในยุคนั้นคิวปิดถือเป็นเทพแห่งนกที่น่าสะพรึงกลัวของหนุ่มสาวที่มีความรัก แต่เมื่อเข้าสู่สมัยใหม่เรื่องราวก็ผิดเพี้ยนไปจนเป็นอย่างที่เรารู้กันในทุกวันนี้แหล่ะคะ
แต่หลังจากนายวาเลนไทย์โดนประหาร กฏหมายที่เคร่ครัดก็กลับตารปัทร เมื่อรัฐบาลประสบปัญหาจำนวนประชากรถดถอย จึงเปลี่ยนมารณรงค์ให้ประชาชนมีบุตรและสั่งห้ามการร่วมเพศทางประตูหลังหรือการหลั่งข้างนอกโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังส่งเสริมการมีบุตรด้วยการแจกวิตามินวิเศษรสช็อคโกแร็จที่มีธาติเหล็กและโฟลิกให้หญิงวัยเจริญพันธ์ ช้อคโกแร็จจึงเป็นของฝ่ายชายมอบให้ผู้หญิงจนถึงปัจจุบันนี้คะ
และนี่ก้อคือประวัติเล็กๆ น้อยๆของวันวาเลนไทย์คะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันวาเลนไทร์นะค่ะ
Comments