Featuring: Madame Cholie Photo: Benya Hegenbarth
เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงเคยติดเกาะร้างกันมาบ้างแล้ว การติดเกาะร้างไม่ใช่ความลับหรือเรื่องน่าอายค่ะ เพราะแม้แต่ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่างทอม แฮงค์ก็เคยติดเกาะร้างในสมัยที่เขายังทำงานอยู่ FedEx
แต่การอยู่อย่างโดดเดี่ยวว ห่างไกลมนุษย์และเครื่องอำนวยความสะดวกนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับคนที่ยังไม่เคยติดเกาะร้าง วันนี้ดิฉันมีเคล็ดไม่ลับการเอาชีวิตรอดจากเกาะร้างมาฝากคุณผู้อ่าน Third World ค่ะ
1. หาแหล่งน้ำดื่ม
มนุษย์เราขาดอาหารได้กี่วันดิฉันไม่แน่ใจ แต่ขาดน้ำได้ไม่เกิน 5 วันนะคะรู้สึก แหล่งน้ำในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำตกหรือทะเลสาป แต่จะเป็นน้ำมะพร้าวหรือน้ำค้างยอดหญ้าก็ได้ แต่ดิฉันขอแนะนำให้เป็นน้ำมะพร้าวเพราะมีปริมาณเยอะกว่า ดีต่อสุขภาพผิว และหาได้ทั่วไปบนเกาะค่ะ
2. หา Wi-Fi
เช่นเดียวกับน้ำดื่มค่ะ ธรรมชาติของมนุษย์ขาดน้ำดื่มได้ไม่เกิน 5 วัน แต่หากมนุษย์ยุคนี้ขาด WiFi ก็จะขาดใจตายภายในไม่เกิน 2 วัน โดยเฉพาะในที่ๆ ไม่มีความช่วยเหลือหรือสิ่งบันเทิงใดๆ แบบนี้ เพราะแม้แต่อินโทรเวิร์ตก็ยังต้องการอินเตอร์เน็ต เพื่อตั้งสเตตัสประกาศให้โลกรู้ว่าเป็นอินโทรเวิร์ต
โดยทั่วไป จุดที่สัญญาณโทรศัพท์แรงที่สุดคือบริเวณหน้าหาด แต่คุณอาจต้องเดินไปเดินมาสักหน่อย และเมื่อมีสัญญาณแล้ว สิ่งแรกที่คุณควรทำคือโทรเข้าศูนย์เครือข่ายโทรศัพท์ของคุณ เพื่อขอเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตค่ะ
3. หากองไฟ
กองไฟเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะนอกจากใช้หุงหาอาหารหรือล่าสัตว์แล้ว ควันไฟยังเป็นเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้อีกด้วย แต่การก่อกองไฟโดยไม่ใช้ไม้ขีดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ควรจุดในวันที่มีแดดและบริเวณกลางแจ้ง เพราะออกซิเจนมีผลต่อการติดไฟ แต่ก็ควรเลือกจุดในบริเวณที่ลมไม่แรงนัก
วิธีก่อกองไฟโดยไม่ใช้ไม้ขีด 1. น้ำหญ้าแห้งหรือใยมะพร้าวแห้งประมาณสามกำมือ (เพื่อใช้เป็นต้นเพลิง) มากองบนพื้นผิวที่แห้งและแข็ง เช่นแผ่นหินหรือท่อนไม้ผ่าซีก 2. ปักกิ่งไม้ลงกลางกองหญ้าแห้ง แล้วใช้มือหมุนให้เร็วที่สุด โดยกดน้ำหนักให้ปลายกิ่งไม้แห้งเสียดสีที่จุดเดียวบนพื้น
3. หยุดหมุนกิ่งไม้แล้วใช้ไฟแช็คจุดกองหญ้า เมื่อไฟติดแล้วจึงค่อยๆ ทะยอยนำของที่ติดไฟได้เช่นเศษผ้า กระดาษ กิ่งไม้ หรือใบไม้มาสุมทีละน้อย 4. นำกิ่งไม้แห้งจากข้อ 2 ใส่ไปในกองไฟ
นอกจากนี้ไฟยังเป็นแหล่งกำเนิดแหล่งพลังงานสำคัญ ดังนั้นเมื่อก่อไฟติดแล้วจึงควรระวังไม่ให้ดับ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจุดใหม่เรื่อยๆ (ภาพประกอบ: แผนภูมิรูปภาพแสดงการชาร์จแบตมือถือด้วยพลังงานธรรมชาติจากวัสดุที่หาได้ขณะติดเกาะร้าง)
4. หาเครื่องนุ่งห่ม
ข้อนี้ไม่ยากค่ะ ดิฉันสั่งที่เว็บไซต์ VICKTEERUT.COM ที่บัดนี้เปิด online store แล้ว ส่งถึงที่อยู่ของคุณเลยค่ะ
5. หาความช่วยเหลือ
สัมภาษณ์คุณ นุติ์ นิ่มสมบุญ จาก Slowmotion Design สำนักกราฟิกดีไซน์ชั้นนำของไทย เรื่องแบบตัวอักษร (ฟ้อนต์) ที่เหมาะสมเพื่อใช้ทำข้อความขอความช่วยเหลือ
“ฟ้อนต์ที่เหมาะสมควรเป็นฟ้อนต์ไม่มีตีน (san Serif) เพื่อความเรียบง่าย เห็นได้แต่ไกล ในกรณีนี้ ผมจึงเลือกฟ้อนต์ที่มักใช้กับป้ายโฆษณาหรือใช้เป็น headline ในนิตยสาร ที่ผมแนะนำที่สุดคือฟ้อนต์ตระกูล Futura เพราะทุกน้ำหนักมีความสะดุดตา และมีประวัติยาวนานย้อนไปตั้งแต่ยุค 20s”
“ส่วนฟ้อนต์ที่ผมไม่แนะนำเลย คือ Helvetica เพราะถ้าผมอยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้วเห็นป้ายขอความช่วยเหลือเป็นฟ้อนต์ Helvetica ผมคงไม่ลงไปช่วย เพราะมันน่าเบื่อ”
อนึ่งนะคะ ตัวย่อ S.O.S. ย่อมาจาก Save Our Ships / Save Our Souls เขียนเป็นรหัสมอร์ส ดังนี้
6. หาอาหาร
เกือบลืมเรื่องอาหารไปเลย การหาอาหารสำคัญมากนะคะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับคนในยุคทุนนิยมอย่างพวกเรา เพราะการช็อปปิ้งบ่อยๆ จะทำให้เรามีสัญชาตญานในการล่าและการเสาะหาสิ่งที่ต้องการได้ดีขึ้น
เคล็ดลับในการแทงปลาของดิฉันก็เหมือนการ bid สินค้าใน eBay คือคุณต้องรอเวลาที่เหมาะเจาะ ตั้งเวลาที่เหมาะสม รอน้ำนิ่งจนมีปลาสบายใจสักตัว ยิ้มร่าว่ายแตกแถวออกมาตอดกรวดสำรวจหินเล่น จงเล็งทาร์เก็ต (อาจจะจินตนาการว่ามีป้าย SALE แปะบนตัวมัน) แล้วทิ่มมันเลยค่ะ!
Voila! ปลา Limited Edition ตกเป็นของเราในที่สุด 😀
7-10. หาความหมายชีวิต
ข้อนี้อาจหนักไปสักหน่อย สำหรับผู้อ่าน Third World ที่หายใจทิ้ง กระพริบตาไปวันๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไรนะคะ เพราะผลการวิจัยบอกว่า โดยปกติคนเราจะติดเกาะร้างระหว่าง 1 เดือนถึง 4 ปี ระหว่างนั้นทำอะไรได้เยอะแยะเชียวค่ะ
แม้เกาะร้างจะไม่มีอะไรให้ทำเพราะมีคุณอยู่คนเดียว แต่ในสมัยก่อน เจ้าของพื้นที่เกาะหลายเแห่งในไทยก็ไม่มีโฉนดที่ดิน แต่เขาก็เข้าไปตั้งรกราก และรอเวลาให้เกาะนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยว ในระหว่างนี้ คุณจึงควรเริ่มกิจการที่จะรองรับนักท่องเที่ยว Full Moon Party เช่น รีสอร์ต ร้านค้า บาร์เบียร์ ยิม หรือร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น
การมีโอกาสยึดครองพื้นที่หาดก่อนใครแบบนี้ จะทำให้คนรุ่นต่อมาเรียกชื่อหาดตามชื่อคุณไปโดยปริยาย เช่นหาดลุงดำ หาดลุงหวัง หาดลุงเจี๊ยบ ในกรณีของดิฉัน ดิฉันจองชื่อ “หาดมาดามชลลี่” แล้วค่ะ
หวังว่าทั้ง 10 ข้อนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ สวัสดีค่ะ
