เป็นที่รู้จักกันดีด้วยโลโก้ชายใส่หมวก top hat ในทักซีโด้ กำลังก้าวเดินพร้อมไม้เท้า เดือนนี้ Johnnie Walker Black Label เปิดตัวฉลากที่ใส่ชุดเดียวกัน เดินท่าเดียวกัน แต่เป็นผู้หญิง และเปลี่ยนชื่อยี่ห้อจาก Johnnie Walker เป็น Jane Walker
ไม่ว่านางสาวเจนจะเป็นเมีย เป็นน้องสาวนายจอห์นนี่ หรือเป็นนายจอห์นนี่แต่งหญิง มันก็แปลกตาดีที่ได้เห็นความกล้าเปลี่ยนของแบรนด์อายุ 200 ปี ที่นึกถึงเมื่อไหร่ก็เห็นผู้ชายมาก่อน
ขวดลิมิเต็ดนี้ ทำออกมาเพื่อฉลองเดือนสตรีของอเมริกาเดือนนี้ เพื่อสนับสนุนความเสมอภาคด้านสิทธิ มีการบริจาคเงิน 1 เหรียญจากการขายแต่ละขวดให้องค์กรการกุศลที่เกี่ยวกับผู้หญิง สร้างกระแสวิจารณ์ที่ต่างกันไป มีทั้งที่บอกว่าเข้าท่าดี และที่บอกว่าเป็นการตลาดแบบโหนกระแส บ้างก็ว่าไม่จริงใจ
จริงใจไหม? จงอย่าถามหาความจริงใจจากทุนนิยม โหนไหม? ก็คงโหนนั่นแหละ เพราะกระแสเฟมินิสต์ในอเมริกาตั้งแต่ทรัมป์เป็นประธานธิบดีมันแรงเกินต้านทาน แต่การช่วยกระพือกระแสที่จะทำให้สังคมเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้น มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ดีเสียอีกที่จะแจ้งสังคมเสียทีเดียว ถึงการตื่นรู้ของแบรนด์ที่ทำตัวแมนมาสองร้อยปี ว่าบัดนี้พร้อมก้าวไปทางเดียวกับการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ดีต่อนาคต แล้วถ้าไม่ทำตอนกระแสแรงแบบนี้จะไปทำตอนไหน? ช้ากว่านี้อาจโดนล้อว่าเป็นแบรนด์ห่างไกลความเจริญได้
แต่กระแสเฟมินิสต์หนักหน่วงนี้ ก็ทำให้สินค้าบางตัวคิดเยอะเกิน โดยเฉพาะในประเทศที่ต้องเล่นใหญ่ไปเสียทุกอย่างเช่นอเมริกา ที่ตอนนี้มีการตลาด “เพื่อผู้หญิง” แบบงงๆ เกิดขึ้น เช่นปากกา BIC ทำปากกา “BIC for Her” ปากกาสำหรับผู้หญิง ที่ไม่มีอะไรต่างจากเดิมนอกจากมีสีสดใสและใส่ลายดอก แล้วยังมีฟองน้ำอุดหูรุ่นสีชมพูเพื่อผู้หญิง วิธีคิดแบบนี้ นอกจากจะสิ้นเปลืองเรื่องการผลิตโดยใช่เหตุ ยังเป็นการทำให้ผู้หญิงดูตลก จะอุดหู จะใช้ปากกาทั้งทีก็ต้องสีชมพูเท่านั้น
ในกรณีของเจน วอล์กเกอร์ มันจึงดีที่เขาไม่ได้ออกแบบกล่องให้เป็นสีชมพูหวานแหววตามคัมภีร์การตลาดโบราณ ว่าขายของให้ผู้หญิงจะต้องใช้สีแอ๊บแบ๊ว ราวกับไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกนี้ที่ชอบสีดำ ไม่ได้เปลี่ยนฝาขวดให้เปิดง่ายขึ้น ไม่ได้ลดขนาดขวดให้ผอมเพื่อมือน้อยๆ ของสุภาพสตรี หรือปรับรสชาติให้หวานแล้วแต่งกลิ่นผลไม้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม และที่ดีที่สุด คือเขาไม่ได้เปลี่ยนชุดเจนให้ต้องใส่ส้นเข็ม เดรสสั้นตามภาพนิยมที่ผู้ชายอยากเห็น
ทุกอย่างไปได้สวย แต่มาพังนิดนึงตอนผู้บริหารหญิงของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ให้สัมภาษณ์ว่า “ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่กล้าดื่มเหล้าสก๊อตช์ นี่จึงเป็นโอกาสดีที่น่าตื่นเต้น ที่จะทำให้ผู้หญิงได้เข้าใกล้แบรนด์ของเรามากขึ้น” -- เหมือนจะยอมรับว่าสก๊อตช์เป็นเหล้าของผู้ชายเค้าดื่มกันอยู่ดี ส่วนผู้หญิงก็ยังชอบอะไรหวานๆ มีร่มกระดาษปักแก้ว เราเลยสร้างเจ๊เจนขึ้นมาให้เป็นเพื่อนสาวเรียกแขก
แต่นั่นก็ปัญหาในอเมริกา เพราะนักดื่มที่เมืองไทยเราโตมากับวัฒนธรรมการดื่มแบบหารค่าเปิดขวด จะเหล้าตอกหรือสก๊อตวิสกี้ นารีขี้เมาชาวไทยไม่เคยเกี่ยง ขอแค่มีคนช่วยหาร
Comments