“ฉันรอที่หอนี้” คือการกลับมาของภาพยนตร์โรแมนติคสยองขำ ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่จดจำมากที่สุดในวงการภาพยนตร์ไทย ทว่าการกลับมาครั้งนี้ “ฉันรอที่หอนี้” มิได้กลับมาในรูปแบบเดิม เพราะไปถ่ายทำกันถึงประเทศสิงคโปร์
เรื่องราวของมะลิ (ทาเล็บ–ฌชกรนฐ) หญิงสาวผู้บูชาความรัก ที่ต้องการแก้แค้นเสี่ยคนรัก ผู้เป็นเจ้าของหอพัก ด้วยการกักขังสาวข้างห้อง (รับบทโดย น้ำตาล – ชนิสรา) ที่เธอจับได้ว่าเป็นชู้กับเสี่ย แต่สุดท้าย กลับเป็นเธอเสียเอง ที่โดนคนทั้งหอพักลั่นกุญแจขังลืมจนสิ้นใจตาย กลายเป็นผีแค้นคอยหลอกหลอน ตลก พระ กะเทย ในหอพักเดียวกัน จนหวาดผวากันทั้งตึก หนังจบแบบหักมุมด้วยการเฉลยตอนท้ายว่า แท้จริงแล้ว สาวข้างห้องที่เธอพยายามขังนั้น ก็เป็นผีเช่นกัน
วันนี้ น้องทาเล็บ – ฌชกรนฐ อัครสฬธรรมกาฬดา นางเอกคนสวยที่หลายคนคุ้นหน้าเธอเป็นอย่างดีจากเรื่อง “กลิ่นรัก” มากับคุณเจต ผู้จัดการดาราคนดังที่เป็นผู้ดูแลเธอ เราสามคนนั่งคุยกันแบบสบายๆ แต่ exclusive คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงบอสซ่า ที่ Casa Bossa ในซอยอารีย์ คาเฟ่น่ารักของคนวัยชิค
เห็นน้องทาเล็บให้สัมภาษณ์ทุกที่เลย ว่าบทนี้เป็นบทที่ยากมาก ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ ทาเล็บรับบทเป็นมะลิค่ะ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ฉลาด มีความซับซ้อนทางความคิด จริงจังกับเรื่องความรัก ไม่สำส่อน ซึ่งตรงข้ามกับตัวจริงของทาเล็บเลย ตัวจริงของทาเล็บเป็นคนบ้าๆ บอๆ โก๊ะๆ แล้วก็ลุยๆ ค่ะ บางทีพวกเพื่อนของทาเล็บยังแซวบ่อยๆ เลยว่า เอ๊ย ทาเล็บทำไมแกเป็นคนบ้าๆ บอๆ โก๊ะๆ แล้วก็ลุยๆ จังวะ (หัวเราะ)
ก่อนรับบทหนักๆ แบบนี้มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ ก็เตรียมค่ะ อย่างพอว่างๆ เบื่อๆ ก็จะก็หยิบบทมาอ่าน
—– (ถึงตอนนี้คุณเจตช่วยพูดแทรกขึ้นมาว่า น้องทาเล็บคร่ำเคร่งกับการศึกษาบทมาก บางวันก็อ่านบททั้งวันทั้งคืน จนคุณเจตต้องคอยเตือนน้องให้พักผ่อนบ้าง นอกจากนี้ ก่อนเปิดกล้อง น้องทาเล็บยังไปเรียนการแสดงเพิ่มเติม เพื่อให้บทบาทออกมาสมจริง เพราะบทของมะลิเป็นบทที่ท้าทายมาก)
ภาคนี้ไปถ่ายทำถึงประเทศสิงคโปร์ ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างคะ สนุกมากค่ะ แต่ก็เป็นการแสดงที่ซับซ้อนมาก เพราะเป็นบทที่มีหลายมิติมาก คือบทของมะลิต้องเล่นด้วยแววตา ต้องแสดงออกทางแววตามากๆ ดึงเอาความรู้สึกภายในแสดงออกมาเป็นคาร์แร็คเตอร์นี้ ซึ่งต่างกันมากกับเรื่องที่แล้ว (กลิ่นรัก)ที่ทาเล็บเล่นเป็นคนตาบอด เพราะเรื่องนั้นจะแสดงออกทางจมูกมากกว่า เรื่องนี้ผู้ชมจะได้เห็นทาเล็บในแนวทางแปลกใหม่ ที่ต่างจากตัวเองไปเลย เและต้องแสดงออกทางสายตามากจริงๆ จุดนี้ก็ยอมรับว่าเป็นบทที่ยากมากค่ะ แล้วยิ่งต้องเล่นเป็นผี ซึ่งไม่ใช่ตัวเราเลย แต่มันก็ทำให้รู้สึกว่าเราโตขึ้น (ยิ้ม)
ขอทวนคำถามใหม่นะคะ ภาคนี้เนี่ยไปถ่ายทำถึงประเทศสิงคโปร์เลยใช่ไหมคะ อยากทราบว่าการไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างคะ? ก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่ต่างไป เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีสิ่งน่าสนใจมากมายเลยค่ะ เช่น… (นิ่งนึก) …สะพานสวยๆ (นึกต่อ) แล้วก็… (นึกอีก) ตึกสวยๆ… (แหงนหน้ามองเพดาน พยายามนึกต่อ) ค่ะ ก็ดีค่ะ ดีมากเลย
หนักใจไหมคะ กับบทของมะลิ ถามว่าหนักใจไหม หนักใจค่ะ แต่ผู้กำกับเขาก็ให้เราเล่นเป็นตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งก็ยอมรับนะคะ (หัวเราะ) ว่ามีท้อบ้าง แต่ทาเล็บเป็นคนที่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ อย่างตอนตื่นมา สิ่งแรกที่ทาเล็บพูดกับตัวเองคือ “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด” (ยิ้ม แล้วตักเค้กจาก“โลลามุยค่าเฟ่“ เกาะสมุยขึ้นมาทาน)
ถ่ายหนังผีแบบนี้ มีเรื่องลึกลับน่ากลัวระหว่างการถ่ายทำไหมคะ ไม่มีค่ะ
—– (ถึงตอนนี้คุณเจตช่วยแทรกขึ้นมา ว่ามีบ้าง เช่นบางทีจู่ๆ ไฟก็ดับ บางคนก็ได้กลิ่นธูป บางทีได้ยินเสียงเคาะประตูแต่เปิดมาไม่เจอใคร ทีมงานบางคนเจอคนใส่ชุดขาวเดินอยู่ในครัวร้านอาหาร ฯลฯ)
เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับดาราเจ้าบทบาทอย่าง น้ำตาล – ชนิสรา ทำงานกับนักแสดงมากรางวัลอย่างน้ำตาลรู้สึกกดดันไหมคะ ไม่กดดันเลยค่ะ สนุกมาก พี่น้ำตาลน่ารักมาก ช่วยแนะนำเรื่องการแสดงให้ทาเล็บเยอะมาก เช่นการส่งอารมณ์ การแสดงออกทางสายตา เพราะบทของมะลิต้องแสดงออกทางสายตามากๆ ช่วงเปิดกล้องใหม่ๆ เราจะคุยกันบ่อยมาก เรียกได้ว่าซี้กันเลยค่ะ แต่สักพักนึง เวลาของเราก็ไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่แล้ว เพราะเวลาพี่เขาเจอทาเล็บในกอง พี่เขาก็จะขอตัวทบทวนบทพอดีทุกที
นอกเหนือจากความสนุก ความตลก ความสยอง คนดูจะได้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้ แน่นอนค่ะ “ฉันรอที่หอนี้” จะมีทั้งความสนุกสนาน น่ากลัว แต่คนดูก็ยังแง่คิดที่ดีด้วยเหมือนกัน คือการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนอกจากนี้ คนดูก็จะได้ถุงผ้าที่ระลึก 1 ใบ ถ้าไปดูพร้อมกันสี่คนค่ะ (ยิ้ม)
—– (ถึงตรงนี้คุณเจตช่วยเสริมว่า สิ่งที่จะได้คือความภาคภูมิใจในการเป็นคนไทย ตัวคุณเจตเองก็รู้สึกภูมิใจแทนน้องทาเล็บมาก เพราะแม้น้องจะเป็นเพียงคนไทยตัวเล็กๆ แต่ก็ได้นำวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยไปเผยแพร่ถึงสิงคโปร์ ทำให้คนสิงคโปร์ได้รู้จักประเทศไทย และอยากเชิญชวนให้คนไทยมาดูหนังไทยกันมากขึ้น)
มาถามเรื่องหัวใจกันบ้าง ช่วงนี้มีใครดูแลหัวใจอยู่หรือเปล่าคะ อย่าเรียกว่าเป็นคนดูแลหัวใจดีกว่า เรียกว่าเป็นคนสนิท เข้าใจกัน คอยเทคแคร์ความรู้สึกดีกว่าค่ะ แต่ขอไม่พูดดีกว่านะคะ
ใช่ดาราตัว ป. ที่มีข่าวว่าน้องทาเล็บเป็นมือที่สามหรือเปล่าคะ —– (ถึงตอนนี้คุณเจตก็วี้ดขึ้นมาว่า อีดอกทอง มึงถามเหี้ยๆ อย่างนี้มึงไปถามแม่มึงสิ แล้วสั่งน้องทาเล็บไม่ให้พูดอะไรต่อก่อนดึงแขนน้องทาเล็บลุกไปจากโต๊ะ)
ไปดูมาแล้ว
สัมภาษณ์คนจาก after party รอบพรีเมียร์ ซึ่งจัดที่ Third World Bar สีลมซอย 4 ว่าคิดอย่างไรกับหนังเรื่อง “ฉันรอที่หอนี้”
วิช ชอบการแสดงของน้ำตาลมากครับ เล่นดีมากๆ ไม่มีที่ติเลย ส่วนน้องทาเล็บเขาก็มีพัฒนาการขึ้น แต่พอเป็นจอใหญ่ก็คิดว่ามันน่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีก แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มีความโดดเด่นและเป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนไทย
ล็อค ก็ดีนะครับ สนุกดีครับ น้ำตาลเล่นได้ดีมาก สื่อให้คนดูเข้าใจว่าความทุกข์ทรมานว่าความหิวมากๆ จนต้องกินหนู กินแมลงสาปมันรู้สึกยังไง
ตู๋ตี๋ ชอบฉากที่น้ำตาลเครียดมากจนไม่รู้จะทำยังไง แล้วสาวทิชชู่ยัดเข้าปากเรื่อยๆ ซึ่งยากมาก พี่เคยทำมาแล้ว คิดว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีพัฒนาการสูง ต่อไปเราอาจจะเห็น star จากเมืองไทยที่สามารถก้าวพ้นพรมแดงเข้าไปถึงในโรงหนังเมืองคานส์ได้
เมย์ ไม่ได้ดูละเอียดค่ะ พอดีติดคุยไลน์เรื่องงานเกือบทั้งเรื่องเลย แต่ติดตามน้องทาเล็บเรื่องที่น้องเขาแย่งแฟนเพื่อนนะคะ ก็อยากเป็นกำลังใจให้น้องเขานะคะ เพราะในมุมมองส่วนตัว พี่คิดว่าถ้าเป็นแฟนเพื่อน พี่ก็ทำค่ะ
Comments