(ซ้าย) คุณเจต พรกระโทก (คนกลาง) “นักปั้นตัวแม่” (ขวา) ทาเล็บ–ฌชกรนฐ นางเอกดาวรุ่งในสังกัด
ชั่วโมงนี้ จะมีข่าวซุบซิบซีเล็บใด เพลิดเพลินเท่าข่าวดาราสุดฮอต ทาเล็บ – ฌชกรนฐ อัครสฬธรรมกาฬดา ที่ให้เครดิตช่างหน้า ช่างผม แต่ไม่ให้เครดิตดีไซเนอร์ที่ทำชุดให้เธอเป็นพิเศษ เพื่อใส่ไปงานพรมแดงเปิดตัวภาพยนตร์ “ฉันรอที่หอนี้” เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
Third World พยายามติดต่อน้องทาเล็บถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ปิดมือถือเงียบ เมือเช็ค IG ของเธอ ก็พบว่าเธอไปนั่งวิปัสนากรรมฐาน 15 วัน เราจึงติดต่อคุณเจต ผู้จัดการคนดังของเธอ มาคุยกันแบบสบายๆ ที่บาร์ Tapas สีลมซอยสี่ บาร์สุดชิคของคุนสุดฮิป
คุณเจต หรือ เจตนา พรกระโทก เป็นคนอำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์ ครอบครัวประกอบอาชีพร้านขายของชำ มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยคุณเจตเป็นคนสุดท้องหลังจากเรียนจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนในอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ พี่สองคนของคุณเจตช่วยกันส่งเสียคุณเจตเข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ
ชีวิตวัยรุ่นของคุณเจต สุดเหวี่ยงอยู่ติดขอบเวทีหมอลำ วาดลวดลาย กระเด้า ตีลังกา ฉีกขา 180 องศา จนเจ้าของวิกหมอลำหลายที่ มักให้คุณเจตและกลุ่มเพื่อนเข้าฟรีเพื่อสร้างสีสัน และทำให้คุณเจตได้ฉายาว่า “เจตเพลี้ยกระโดด” ตามรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบางของเขา
เมื่อเข้ากรุงเทพฯ คุณเจตได้ฝีกงานกับบริษัท “เซเล็บ โมเดลลิ่ง” โดยมีหน้าที่ช่วยมองหาหนุ่มสาวหน้าตาดี มาถ่ายแบบและพรีเซ็นต์สินค้า และที่นี่เอง ที่ได้ทำให้คุณเจตเรียนรู้การติดต่อประสานงาน เข้าหาผู้คน ด้วยนิสัยนอบน้อมถ่อมตน ทำให้คุณเจตเป็นที่เอ็นดูของผู้คนในวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดารา ช่างไฟ หรือผู้กำกับ
เป็นความโชคดีของคุณเจต ที่ผูกพันกับเวทีหมอลำตั้งแต่วัยรุ่น เขาจึงได้มีโอกาสรู้จักหางเครื่องหน้าตาดี มีแววดาว เช่นแหม่ม –อัญชลาญ่า นางเอกคนดัง ก็เกิดจากการปลุกปั้นของคุณเจต ตั้งแต่สมัยเขายังเรียนอยู่แค่ปี 2
การแจ้งเกิดของแหม่ม อัญชลาญ่า โดยการปลุกปั้นของคุณเจต ทำให้เขาค้นพบพรสวรรค์ในการเฟ้นหาดาวดวงใหม่ของตัวเอง คุณเจตจึงลาออกจากมหาวิทยาลัยมาเป็นผู้จัดการดาราแบบเต็มตัว โดยใช้คอนเน็คชั่นที่สร้างไว้ตั้งแต่ฝึกงาน เข้าหาผู้ใหญ่ในวงการ เพื่อนำเสนอดาวดวงใหม่ๆ และ น้องทาเล็บ-ฌชกรนฐ อัครสฬธรรมกาฬดา ก็เป็นดาวอีกหนึ่งดวง จากน้ำมือของคุณเจต
ช่วยเล่าประวัติคร่าวๆ ของคุณเจตให้ฟังหน่อยค่ะ พี่เป็นคนอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ แต่เข้ามาพำนักกับคุณอาในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อเป็นเจ้าของรีสอร์ทหลายแห่งทางภาคเหนือ ส่วนคุณแม่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลใหญ่ของลาว แต่มาเปลี่ยนนามสกุลเป็นพรกระโทกตามคุณพ่อ ที่มีพื้นเพเป็นคนนครราชสีมา
พอเรียนจบ ม. 6 คุณพ่อคุณแม่ อยากให้พี่ไปเรียนต่อไฮสกูลที่ต่างประเทศเหมือนพี่ๆ สองคน แต่พี่อยากอยู่เป็นเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ที่เมืองไทย และก็อยากอยู่ที่นี่ช่วยวงการบันเทิงไทยด้วย ก็เลยตัดสินใจอยู่ช่วยครอบครัวและประเทศชาติดีกว่า พี่พูดอย่างนี้แล้วกัน (ยิ้ม ก่อนตักเค้กจากร้าน “โลลามุย คาเฟ่” จากเกาะสมุยขึ้นมาทาน)
Lolamui Cafe, Samui. Tel. 077-601607
ตอนนี้ก็อยู่ในวงการมาจะสิบปีแล้ว ถือว่าเป็นตัวแม่เลย ได้ติดตามข่าวเมืองคานส์บ้างไหมคะ อ๋อ ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยได้ติดตามเลย เพราะมัวแต่วุ่นๆ กับคิวของน้องหลายคน ตอนนี้น้องในสังกัดของพี่งานเยอะมาก แล้วเราก็มีแค่สองมือ (หัวเราะ) เลยไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่น แต่ติดตามบ้าง แล้วปีนี้คานส์เขาจัดกันที่ไหน
ที่ฝรั่งเศสค่ะ อ๋อ ก็ที่เดิมเนอะ ปีนี้น้องชมพู่ไปเดินให้ลอรีอัลหรือเปล่า
ไปค่ะ แล้วก็มีใหม่ ดาวิกาอีกคน อุ๊ย ใหม่ไปด้วยเหรอ ชีน่ารักมากนะ พี่ชอบมาก เป็นเด็กที่มารยาทดี มีสัมมาคารวะ ที่สำคัญ ขีเป็นดาราที่ไม่เรื่องมาก พี่ชอบตรงนี้ แล้วน้องเขาใส่ชุดของใครไปเดินล่ะ
ของ Asava, Vatanika แล้วก็มีของ Poem อีกชุด แต่รู้สึกจะไม่ได้ใส่ อ้าว เขาไม่ได้ใส่ของ CPS เหรอ เห็นเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ CPS
เข้าเรื่องแล้วกันนะคะ ตอนนี้ที่น้องทาเล็บเป็นข่าวเรื่องไม่ลงเครดิตดีไซน์เนอร์ที่ตัดชุดให้ไปงานพรมแดงเปิดตัว “ฉันรอที่หอนี้” ที่เป็นกระแสวิจารณ์กันในหมู่ดีไซน์เนอร์และในโซเชี่ยล อยากให้คุณเจตช่วยชี้แจงเรื่องนี้ค่ะ
จริงๆ แล้วน้องเขาลง! พี่ย้ำน้องเขามาตลอด ว่าเวลาใครทำอะไรให้เรา เราต้องขอบคุณเขา เขาช่วยเรา เราก็ต้องช่วยเขา ต้องเกื้อกูลกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ แล้วจริงๆ น้องเขาลงใน IG ใส่ @ ใส่ # ขอบคุณทุกแบรนด์
แต่หลายคนบอกว่า ที่เขาทำเพราะมีกระเสออกมาต่อว่า น้องทาเล็บเลยลงให้ทีหลัง ลงก่อนลงหลังแล้วมันยังไง สุดท้ายก็ลงให้ไหมล่ะ? ตอนนี้ได้เครดิตกันหรือยังล่ะ? ก็น่าจะโอเคแล้ว จะลงตอนไหนมันไม่เกี่ยวหรอก โอ๊ย คอแห้งจัง (คุณเจตพักจิบชา Mariji’s )
ดีไซน์เนอร์บางท่านบอกว่า งานค่อนข้างกระชั้น ทางแบรนด์ถึงกับต้องสั่งช่างให้หยุดทำงานอื่น เพื่อมาช่วยกันทำชุดให้น้องทาเล็บเป็นพิเศษ เพื่อให้ทันงานพรมแดงเปิดตัวหนัง "ฉันรอที่หอนี้" พี่พูดอย่างนี้แล้วกัน คือชุดที่น้องใส่เนี่ย เป็นชุดที่พี่ต้อม บ.ก. หนังสือ Front Row เขาติดต่อทางแบรนด์ให้ ซึ่งพี่ก็โอเค แต่พอสองอาทิตย์ก่อนวันงาน เขาส่งสเกตช์ชุดมาให้พี่ตรวจ พี่ก็เสนอกับเจ้าของแบรนด์เขาไปว่า ชุดมันควรจะแกรนด์กว่านี้ ปังกว่านี้ เพราะนี่เป็นงานพรมแดงเปิดตัวหนัง พี่ก็บอกเขาให้ไปแก้เพิ่ม เขาก็รับปากว่าเขาจะดูให้
แต่พอพี่ไปตรวจชุดสามวันก่อนงาน ปรากฏว่าเขาก็แค่เติมดีเทลล์มานิดหน่อย แต่ที่พี่อยากได้คือชุดที่มันปักเลื่อมทั้งตัว เพราะนี่เป็นงานกลางคืน สุ่มต้องมา เลื่อมก็ต้องมา นี่คืองานเปิดตัวหนัง ย้ำว่าเป็นงานเปิดตัวหนัง! ไม่ใช่งานเปิดบั้นท้ายขายของหนังสือ Cheeze!
ก่อนวันงานสามวัน พี่ก็เลยโทรไปบอกเจ้าของแบรนด์เขาตอนสามทุ่ม เพราะเห็นว่ายังพอมีเวลาแก้ พี่อยากให้มันโดดเด่นกว่านี้ เพราะน้องเขาเป็นถึงนางเอกของเรื่อง เขาควรปังกว่าดาราคนอื่น พี่พูดอย่างนี้ละกัน คือน้องเคยดูพวกหางเครื่องใช่ไหมทำไมหางเครื่องเขาต้องมีเลื่อมเยอะๆ? เพราะเวลาอยู่บนเวที มีไฟสาดเยอะๆ ชุดมันจะเล่นกับแสงไฟ ก็ดูโดดเด่นใช่มั้ย คนดูก็ตื่นตาตื่นใจ that’s it!
อยากถามอีกเรื่อง อันนี้เป็นข่าวเก่าแล้วนะคะ คือ… อ้อ เดี๋ยว ขอแทรกแป๊ป คือที่พี่ยกตัวอย่างหางเครื่อง พี่ก็ไม่เคยดูจริงๆ หรอกนะ แค่ยกตัวอย่าง อ่ะ เมื่อกี้น้องจะถามไรนะจ๊ะ
ค่ะ อยากถามข่าวที่ว่า นักแสดงตัว “ท” ที่มีข่าวว่าผู้จัดการดาราสั่งนิตยสารให้เปลี่ยนโลเคชั่นถ่ายแฟชั่น จาก outdoor มาเป็น indoor นี่ ใช่น้องทาเล็บหรือเปล่าคะ อันนี้พี่ยืนยัน ว่าไม่ใช่น้องทาเล็บ (ตักคัสตาร์ด ทาร์ต จากร้าน “โลลามุย คาเฟ่” จากเกาะสมุยขึ้นมาทาน)
Lolamui Cafe, Samui. Tel. 077-601607
คุณเจตอยากฝากอะไรเกี่ยวกับข่าวเรื่องนี้ไหมคะ ที่พี่อยากฝากคือ มูลค่าของการที่น้องทาเล็บอัพรูปลง IG หนึ่งรูป มันแพงกว่าค่าชุดที่เขาทำให้เสียอีก พี่ถึงบอกว่า ถึงไม่ลงเครดิตก็เหมือนลง ทางแบรนด์ก็เอารูปนั้นไปโฆษณาต่อได้ ว่านี่นะ น้องทาเล็บใส่ชุดของฉันไปงานเปิดตัวหนังนะ ซึ่งน้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย ถ้าแบรนด์จะทำอย่างนั้น คือทางแบรนด์ต้องหัดโปรโมทตัวเองให้เป็น จะมาหวังเกาะกระแสน้องทาเล็บของพี่อย่างเดียวมันไม่ได้
แล้วทำไมช่างหน้า ช่างผม เขาลงให้ แต่ไม่กด @ หรือ # ใน IG ให้คนทำเสื้อผ้าบ้าง ซึ่งมันก็แค่ไม่กี่ปุ่มเองนะคะ พี่พูดอย่างนี้แล้วกัน ว่าทีหลังทางแบรนด์ก็ควรปัก IG ร้านไว้ที่ป้ายยี่ห้อด้วย เพราะว่าน้องเขาก็งานเยอะ บางทีเขาก็ต้องเชคแฮนด์คนนั้นคนนี้ จนมือไม่ว่างจะมาคอยกดหาว่าแบรนด์นั้น แบรนด์นี้ IG อะไร จะให้มาเอาใจทุกคนคงไม่ไหวไง แล้วทางแบรนด์ก็ควรเชื่อคำแนะนำของคนในวงการอย่างพี่บ้าง เราอยู่ตรงนี้เรารู้ดีว่าชุดแบบไหน มันเหมาะกับงานแบบไหน แล้วแบรนด์ก็อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีดาราใส่
จากประสบการณ์การปั้นดาวดวงใหม่มาประดับวงการเกือบสิบปี คุณเจตทำให้เราได้เห็นมุมองและข้อคิดใหม่ๆ จากคนที่เข้าใจวงการบันเทิงและวงการแฟชั่นอย่างถ่องแท้ นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าฉายา “นักปั้นตัวแม่” ที่เขาได้มานั้น ใช่ว่าจะได้กันมาง่ายๆ
ความคิดเห็น