แล้วผมก็สอบตก สว.
เมื่อเช้าท้องฟ้ามีเมฆมาก อากาศครึ้มเหมือนฝนจะตก วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน ผมใส่ชุดหล่อรีดเรียบกริ๊บ หวีผมเรียบแปร้ขี่จักรยานไปศูนย์เลือกตั้งเขตพญาไทที่ห้องสโมสรกรมประชาสัมพันธ์ ตอนนั้นเป็นเวลาแปดโมงเช้า แล้วพอเข้าไปในห้องเลือกตั้งเขาก็ยึดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดและห้ามออกจากห้องนี้จนกว่าการลงคะแนนจะสิ้นสุดทั้งสองรอบ
แล้วหกชั่วโมงหลังจากนั้นผมก็ออกมาจากศูนย์เลือกตั้ง ฟ้ายังคงครึ้มแต่สุดท้ายฝนก็ไม่ตก ที่ตกมีแค่ผมและผู้สมัครด้วยกันอีกสิบกว่าคน สาเหตุการสอบตกหลักๆ มาจากความดวงไม่ดีและความ "จูงมือ" ไม่เป็น
เขียนโดย พงษ์สรวง ชุบ อดีตผู้สมัคร สว. กลุ่ม 16 เขตพญาไท
ดวงไม่ดี
เขตพญาไทมีผู้ลงสมัครทั้งหมด 66 คนใน 18 กลุ่มสาขาอาชีพ รอบเช้าเป็นการเลือกกันในเขตโดยจะคัดผู้สมัครให้เหลือกลุ่มอาชีพละไม่เกินห้าคน ผมผ่านรอบนี้โดยไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะผู้สมัครกลุ่ม 16 ของผมมีแค่สี่คน (อันที่จริงมีห้าแต่มีคนหนึ่งสละสิทธิ์เแล้วไปเที่ยวทะเลแทน) แต่มีสองกลุ่มของเขตพญาไทที่ผู้สมัครเกินห้าคนและต้องคัดออกกลุ่มละสองคน
แล้วเมื่อผลโหวตออกมาทั้งสองกลุ่มมีสามคนที่คะแนนเท่ากัน ทีแรกผมก็คิดว่าเดี๋ยวเขาคงเอาเฉพาะหกคนนั้นมาให้โหวตอีกรอบ แต่ปรากฏว่าเขาใช้วิธีจับฉลากคัดออกดื้อๆ ซะงั้น ทำเอาผู้สมัครทั้งเขตอึ้งว่ามีงี้ด้วยเหรอ การจับฉลากมันอยู่ในตำราหน้าไหนของการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ใครมันเป็นคนคิดระบบนี้วะ
แล้วสี่คนจากสองกลุ่มก็ต้องกลับบ้านแบบงงๆ เพียงเพราะดวงไม่ดี หนึ่งในนั้นมีคนที่ผมเล็งไว้ว่าจะเลือก ผมดูเขาเดินออกจากห้องด้วยความเสียดาย ว่า ณ สถานที่แห่งนี้ คนอุดมการณ์แรงกล้าเพียงใดก็ไม่อาจสู้คนดวงแข็ง และการจับฉลากแบบนี้มีอยู่ตลอดเส้นทางของกระบวนการเลือกตั้ง สว. ครั้งนี้จนเป็นเหมือนกระดูกสันหลัง ผมคิดว่าถ้าจะมาสายมูกันจริงๆ ก็ควรเอาพระหรือปลัดขิกมาวางหน้าห้องให้ผู้สมัครกราบไหว้ปลุกดวงกันเสียหน่อยเพื่อความยุติธรรม
เรื่องดวงไม่ดียังส่งผลกับกลุ่ม 16 ของผม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผมคิดว่าประหลาดที่สุดด้วยมันระบุว่า “กลุ่ม 16: ศิลปะ วัฒนธรรม การแสดง นักดนตรี กีฬา”
กีฬามายังไง? ทำไมเขาไม่แยกกีฬาเป็นอีกลุ่มไปเลยทั้งที่มันก็เป็นแขนงใหญ่มากพอที่จะเป็นเอกเทศได้ ดังนั้น ผู้สมัครกลุ่ม 16 จึงไม่ได้มีแค่ศิลปิน นักดนตรี นักแสดง แต่ยังรวมไปถึงนักปั่น นักมวย นักบอล นักวิ่ง ถ้าคุณทำงานการเงินแต่มีการปั่นจักรยานหรือวิ่งมาราธอนเป็นงานอดิเรกก็สามารถลงกลุ่มนี้ได้
แต่ก็เอาเถิด ยังไงผมก็ไม่คิดว่าการเลือกตั้งรอบแรกนี้เป็นเรื่องของอุดมการณ์อยู่ดี แต่เป็นเรื่องการโทรเจรจากันหลังไมค์ซึ่งผิดกฏการเลือกตั้ง และซึ่งนำมาสู่สาเหตุการตกรอบของคน "จูงมือ" ไม่เป็น
การจูงมือ
หลังปิดรับสมัครก็เหลือเวลาเพียง 10 วันก่อนถึงการเลือกตั้งรอบแรก สามวันแรกหมดไปกับความไม่ชัดเจนของ กกต. ว่าผู้สมัครอะไรทำได้ไม่ได้บ้าง สามารถประกาศตัวลงโซเชี่ยลได้ไหม? พูดจุดยืนได้ไหม? สร้างกรุ๊ปไลน์ได้ไหม?
แต่ผมก็สร้างกรุ๊ปไลน์กับสี่คนที่สมัครพร้อมกัน จุดประสงค์แรกเริ่มเพื่อแจ้งข่าวกันว่าต้องไปรับเอกสารเพิ่มเติมวันไหน ผมตั้งชื่อกรุ๊ปว่า “สวยพญาไท” เพราะคิดว่าถ้าไม่ได้เป็น สอ-วอ อย่างน้อยเราสี่คนก็ยัง สอ-วอ-ยอ วันแรกผมยังไม่รู้ว่าอะไรคือการ “จูงมือ” กัน แต่ใช้เวลาแค่วันเดียวก็เข้าใจเกม เมื่อเพื่อนที่สมัคร สว. เขตอื่นดึงผมไปเข้ากรุ๊ปใหญ่ที่มีสมาชิก 450 คน แล้วเพียงไม่กี่นาทีหลังเข้ากรุ๊ปนั้นก็เริ่มมีคนแปลกหน้า add Line มาหา บางคนกดรับปุ๊ปก็โทรหาเลย เขาแนะนำตัว บอกว่าอยากทำความรู้จักกันไว้เผื่อรอบไขว้จะได้ “จับมือไปด้วยกัน” ทีแรกผมคิดว่าที่เขาติดต่อผมส่วนตัวคงเพราะเห็นผมเข้าท่า ซึ่งเป็นการสำคัญตัวผิดอย่างยิ่ง เพราะสิ่งนี้คือกิจกรรมธรรมดาที่เขาทำกันทั่วไป และเกิดกับผู้สมัครแทบทุกคน
การลง สว. ก็คือการแข่ง Squid Game ดีๆ นี่เอง
กรุ๊ปไลน์แห่งมิตรภาพและความปรารถนาดี ฟีดกรุ๊ปไลน์กลุ่ม 450 คนวิ่งไม่หยุดทุกนาทีตลอดทั้งวัน โพสต์หลักๆ คือรูปโปสเตอร์แนะนำตัวของแต่ละคนที่มีรูปหน้า ชื่อเขตและประสบการณ์การทำงาน แต่โดยรวมแล้วมันคือมหกรรมสวัสดีวันจันทร์ เพราะที่เยอะพอกับโปสเตอร์แนะนำตัวคือภาพดอกไม้ ภาพพระ ภาพแสดงความปรารถนาดี ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะการลง สว. เป็นกิจกรรมของคนอายุ 40 ขึ้นไป จำนวนผู้สมัครทั่วประเทศประมาณ 42,000 คน ที่สามในสี่เป็นคนกลุ่มอายุ 50-70 ซึ่งเป็นกลุ่มวัยของนักสวัสดีวันจันทร์
ต่อให้คุณกด mute กรุ๊ปก็ยังต้องเจอคนชอบใช้ @all (แมสเสจที่มี @all จะขึ้นว่ามีข้อความถึงคุณแม้จะ mute การแจ้งเตือนแล้วก็ตาม) ทุกเช้าผมจึงตื่นมาพบข้อความที่ยังไม่ได้อ่านประมาณ 800 ข้อความ ทั้งการ์ดสวัสดีวันจันทร์ รูปอาหารเช้าและการ์ดส่งกำลังใจให้กัน “เราจะสู้ไปด้วยกัน” เขาชอบพูดกันแบบนี้ “จับมือกันไปให้ถึงเมืองทอง”
เมื่อสามวันก่อนมีคุณตาวัย 80 คนหนึ่งเผลอส่งคลิปโป๊เข้ามาในกรุ๊ปที่มีสมาชิก 250 คนแล้วกด unsent ไม่เป็น แล้ววันรุ่งขึ้นคนๆ เดียวกันนี้ก็ส่งรูปพระมาธรรมมะสวัสดียามเช้า ส่วนไฟล์คลิปโป๊ก็คงยังแหกแข้งแหกขาอยู่ที่ไหนสักแห่งใน timelime กรุ๊ปที่ฟีดวิ่งตลอดเวลา
คนมีสิทธิ์เลือก สว. คือผู้ลงสมัคร สว. เท่านั้น ในรอบแรกที่เลือกกันเฉพาะเขต คุณจึงต้องผูกมิตรกับคนในเขตตัวเองให้มากที่สุดเพราะคุณไม่รู้ว่าพอเขาแบ่งสายเพื่อโหวตไขว้ คนที่คุณตกลง “จูงมือ” ด้วยจะได้อยู่สายเดียวกับคุณหรือเปล่า มีคนอธิบายให้ผมฟังเชิงสถิติว่าผมต้องไปขอจูงมือกับคนในเขตเดียวกันให้ได้อย่างน้อย 18 คน หรือกลุ่มอาชีพละ 1 คน
ขณะเดียวกันก็ควรผูกมิตรกับคนเขตอื่นไว้แต่เนิ่นๆ เพราะถ้าผ่านรอบนี้คุณจะเหลือเวลาแค่ 7 วันในการหาเสียงรอบต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้สมัครแทบทุกคนจึงอยู่หลายกรุ๊ปไลน์ใหญ่ๆ ที่มีผู้สมัครหลากเขตถึงยังไม่เริ่มคุยอะไรอย่างน้อยเข้าไปแปะรูปหาเสียงของตัวเองให้เขาคุ้นหน้าไว้หน่อยก็ยังดี
เมื่อผมเข้าไปเช็คอัลบั้มรูปภาพของกรุ๊ปใหญ่ๆ ก็พบว่าบางกรุ๊ปมีการจัดมี้ตติ้งผูกมิตรกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว บ้างจัดที่โรงแรม บ้างที่สวนอาหาร มีคนร่วมงานหลายสิบคน พวกเขารู้จักกันก่อนเปิดรับสมัคร สว. หลายเดือน วางเส้นทางกันตั้งแต่ สว. ชุดเก่ายังไม่หมดอายุ มันทำให้ผมได้รู้ว่ามือหลายคู่คงถูกจับไปเรียบร้อยแล้ว
ผมจึงเอา QR กรุ๊ปไลน์ “สวยพญาไท” ไปแปะในกรุ๊ปใหญ่เพื่อหาผู้สมัครเขตเดียวกัน แล้วกรุ๊ปที่เริ่มจากสี่คนก็เติบโตเป็นยี่สิบคน แล้วใครไม่รู้ก็ไปเปลี่ยนชื่อกรุ๊ปของผมเป็น “สายพญาไท ณ จ๊ะ” โดยไม่บอกกล่าวซึ่งผมมองว่าออกจะเสียมารยาทและชื่อใหม่ที่เขาตั้งก็ฟังดูเสร่อ แต่ก็ช่างมันเถอะ
การหาเสียงที่นิยมทำกันคือการนัดซูมเพื่อแนะนำตัวกับคนเขตเดียวกัน ยิ่งใกล้วันก็ยิ่งมีการนัดซูมกันถี่ขึ้นซึ่งผมมีโอกาสเข้าไปแค่ครั้งเดียวเพราะเขาชอบนัดกันตอนกลางคืนซึ่งคนรับจ๊อบดีเจอย่างผมก็มักติดงาน แล้วพอเหลือเวลาอีกสามวันผมสัมผัสได้ถึงความระอุ นาทีนี้ไม่มีการอ้อมแอ้มรักษากริยากันแล้ว เขาโทรถามกันตรงๆ ไปเลยว่ามีคนไข้วหรือยังครับ เรามาไขว้กันไหม ทั้งไลน์หา ทั้งโทรหา ทั้งส่งอีเมลล์ ที่ส่งใบปลิวหาเสียงมาถึงบ้านก็หลายซอง
ผมสงสัยว่าสุดท้ายเมื่อได้ สว. สองร้อยคน มันจะมีสักคนไหมที่ได้เข้าไปโดยไม่แอบเล่นผิดกติกา?
ส่วนกรุ๊ปไลน์ใหญ่ต่างก็เดือดดาลด้วยภาพหาเสียงผู้สมัครและการ์ดส่งความปรารถนาดี มันวิ่งตลอดเวลาจนในที่สุดผมต้อง leave ทุกกรุ๊ปใหญ่ เหลือแค่กรุ๊ปพญาไทที่ผมเป็นคนสร้างที่ตอนนี้มีสมาชิก 40 คนและโดนใคร take over ไปแล้วไม่รู้
พี่กิจกรรม มีผู้สมัครเขตพญาไทคนหนึ่งที่ผมสนใจพฤติกรรมของเขาเป็นพิเศษด้วยเขาดูวิ่งเต้นเกินใคร ผมแอบตั้งฉายาให้เขาว่า “พี่กิจกรรม” เพราะเขาเอาใจทุกคน ปรารถนาดีกับทุกท่าน เขาเป็นคนแรกๆ ที่โทรหาผมและอีกหลายคนในเขตพญาไท ระหว่างวันเขาจะขยันส่งข้อความที่มี @all เข้ากรุ๊ปไลน์ต่างๆ เพื่อคอยรายงานข่าวการเลือกตั้งให้ทุกคนทราบแม้ข่าวนั้นทุกคนจะทราบกันอยู่แล้ว มีครั้งหนึ่งเขารำพึงรำพันน้อยใจว่ามีคนด้อยค่าอาชีพเขา แต่ผมผู้จับตาดูเขาตั้งแต่ต้นก็จำไม่ได้ว่ามีใครไปด้อยค่าอะไรเขาตอนไหน ผมคิดว่าทุกคนจำเขาได้เพราะดราม่านั้น มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้ผู้สมัครคนอื่นจำคุณได้
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งพลังงานการเข้าหาคนของเขาก็ยิ่งทวีคูณ ในขณะที่พลังของผมทั้งแผ่วทั้งเหี่ยว ผมถอดใจกับเกมอันสลับซับซ้อนที่ผมรู้ว่าไม่มีวันชนะนี้ไปแล้ว มันไม่เหมือนการแข่งขันวาดรูปหรืออ่านทำนองเสนาะที่ผมเคยชนะตอนมัธยมซึ่งวัดกันด้วยฝีไม้ลายมือและการฝึกฝน แต่เกมนี้มันชนะกันด้วยการผูกมิตรเพื่อผลประโยชน์แห่งการ “จูงมือไปด้วยกัน” ผมไม่เก่งเรื่องแบบนี้เลย ผมไม่พิมพ์รับปากใครเพราะกลัวโดนแคปไปเป็นหลักฐาน ผมไม่กล้ารับปากด้วยวาจาเพราะกลัวโดนบันทึกเสียงเป็นหลักฐาน ผมได้แต่อ้อมๆ แอ้มๆ ซึ่งความไม่ชัดเจนแบบนั้นทำให้คนอื่นคิดว่าผมคงมีคนจับมือด้วยครบแล้ว
แต่ความจริงคือ พรุ่งนี้จะเลือกตั้งแล้วผมยังไม่มีใครจูงมือด้วยเลย
แล้วผมก็โมโหตัวเองว่าไม่น่าเหนียมตั้งแต่แรก เพราะไอ้การ add ไลน์คนไม่รู้จักจะว่าไปมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการเล่นทินเดอร์ มันก็คือการส่งข้อความทักคนแปลกหน้า แค่ทินเดอร์คุณทักเพื่อหวังได้จับทุกอย่าง แต่อันนี้หวังแค่ “จับมือ”
เมื่อเช้าผมได้ 1 คะแนน น้อยที่สุดในกลุ่ม 16 แต่การได้ 1 คะแนนก็ถือว่าไม่แย่ เพราะมีหลายคนมากๆ ที่ผ่านรอบนี้ด้วยคะแนนเพียง 1 คะแนน และมีบางคนก็เข้ารอบแบบฟลุกๆ เพราะเป็นผู้สมัครคนเดียวของกลุ่ม
เมื่อเช้า ณ ห้องสโมสรกรมประชาสัมพันธ์ พอผู้สมัครนั่งกันพร้อมหน้าก็เห็นได้เลยว่าหลายคนเขาสนิทสนมกันมาก่อนแล้ว ทั้งห้องนี้มีคนที่ผมรู้จักอยู่เพียงคนเดียวคือน้องศิลปินกลุ่ม 16 ด้วยกันที่ผมเคยดูงานแสดงเขาหลายครั้งในสิบปีที่ผ่านมา ผมมั่นใจว่าเขาเองก็ยังไม่ได้จับมือใคร แต่เราก็จับมือกันไม่ได้เพราะอยู่กลุ่มเดียวกัน แล้วตอนนี้มันก็สายไปแล้วที่จะไปขอจับมือใครหน้างาน
ก่อนเลือกรอบไขว้ตอนบ่ายโมงเขามีเวลาหนึ่งชั่วโมงให้ผู้สมัครที่อยู่สายเดียวกันนั่งล้อมวงแนะนำตัวต่อกัน ผมฟังน้องคนดังกล่าวเสนอแนวคิดที่ฉะฉาน ชัดเจน จริงใจ เขาพูดเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ประสบการณ์ถูกการเมืองคุกคามตอนเขาแสดงงานศิลปะ การเมืองสกปรกที่เข้ามาอยู่ในชีวิตทุกคนอย่างหนีไม่ได้และสิ่งที่เขาต้องการเปลี่ยนแปลงมัน ผมฟังเขาแล้วคิดว่าหากการเลือกตั้งวัดกันที่อุดมการณ์และความหวังจริง จะเป็นเรื่องน่าผิดหวังมากถ้าน้องคนนี้ตกรอบ
แต่สุดท้ายเขาก็ผ่านรอบแรก แม้จะด้วยเพียงสามคะแนน แต่ก็นับว่าดีมากเพราะเขาได้มันมาอย่างใสสะอาดโดยไม่ได้เล่นเกมขอจูงมือใคร
ระหว่างรอนับคะแนน “พี่กิจกรรม” ของผมหันซ้ายขวาเริงร่าทักทายคนไปทั่ว ผมนั่งอยู่ข้างหลังเขาและคิดว่าเผลอกรอกตาไปทีนึงนะ มองข้ามหัวเขาไปหน้าห้องที่มีชื่อของผมเขียนด้วยปากกามาร์กเกอร์สีน้ำเงินบนบอร์ดนับคะแนน เออเว้ย ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นชื่อตัวเองบนตารางนับคะแนนเลือกตั้ง ผมหวังแค่ขอให้ได้สักคะแนนเถิด จะได้ไม่น่าอายนักว่าไม่มีใครเลือกผมเลย
ผมสอบตก แต่ก็เอาล่ะ อย่างน้อยผมก็ได้ใช้สิทธิ์เลือก สว. ตามความตั้งใจของการลงสมัครครั้งนี้ของผม เสียค่าใช้สิทธิ์ 2,500 บาท เป็นการได้ใช้สิทธิ์ที่แพงมาก
ทันทีที่ประกาศผลจบและกรรมการอนุญาตให้ลุกจากที่นั่งตัวเองได้ พี่กิจกรรมของผมไม่รีรอที่จะเข้าไปผูกมิตรกับผู้เข้ารอบกลุ่มอื่นอย่างหิวกระหาย และทันทีที่ได้โทรศัพท์คืน เขาก็ไม่รีรอที่จะสร้างกรุ๊ปไลน์ใหม่ชวนผู้เข้ารอบไปเข้าร่วม ผมเดาว่าอีกแป๊บเขาจะไปใส่ @all อยู่ตามกรุ๊ปรวมผู้สมัครกลุ่ม 16 จากทุกเขตเพื่อให้คนได้เห็นชื่อเขาบ่อยๆ
เมื่อมองย้อนไปมันก็เป็นสิบวันที่สนุกดี แล้วความสนุกก็มาพีคเอาตอนจบของวันนี้ ที่ผมแอบได้ยินผู้สมัครท่านหนึ่งเข้าไปต่อว่า “พี่กิจกรรม” แบบซึ่งหน้า เรื่องที่เขาต้องตกรอบเพราะพี่กิจกรรมหักหลังไม่แลกคะแนนให้เขาตามที่ตกปากรับคำกันไว้
โห แซ่บว่ะ ผมมั่นใจว่าการหักหลังกันแบบนี้จะเกิดขึ้นอย่างระเบิดระเบ้อในการเลือกตั้ง สว. อีกสองรอบที่เหลือ และคนที่ดูเฟรนด์ลี่วิ่งเต้นที่สุด อาจเป็นคนที่ควรระแวงที่สุด
ปล่อยมือ
ผมเดินออกจากตัวอาคารในฐานะอดีตผู้สมัคร สว. อากาศยามบ่ายยังคงครึ้มเหมือนเมื่อเช้า คนเข้ารอบยังต้องอยู่รอรับเอกสาร
ผมรู้ดีว่าจากนี้พวกเขาจะต้องหาก๊วนแลกคะแนนกัน โทรศัพท์พวกเขาจะดังถี่ขึ้นกว่ารอบที่ผ่านมา ไลน์จะเด้งรัว อีเมลล์จะล้น ทุกคนจะกระหน่ำมอบมิตรภาพให้กันด้วยภาพแสดงความปรารถนาดีและสวัสดีวันจันทร์
“จูงมือไปด้วยกันจนถึงเมืองทอง” เขาจะพูดแบบนี้
แต่พวกเขาจะตระหนักดีว่าเกมนี้ซีเรียสแล้ว เพราะผู้ที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายนั้นวัดกันที่คะแนนสูงสุด ทั้งคะแนนจากผู้สมัครกลุ่มอาชีพเดียวกันและคะแนนรอบไขว้จากกลุ่มอื่น การไปตกลงจูงมือกันกับคนๆ เดียวเหมือนรอบแรกไม่เวิร์กอีกต่อไปแล้ว
และเมื่อเขาต่างรู้ดีว่าการจูงมือไม่ได้ผลอีกต่อไป ก็ควรเลิกเคลิ้มไปกับคนฉาบฉวยที่หมกมุ่นอยู่แต่กรุ๊ปไลน์ทั้งวันเพื่อสร้างภาพจอมปลอม แต่เมื่อถามถึงอุดมการณ์ หลักการหรือสถานการณ์โลกก็ละล่ำละลัก รีบเปลี่ยนเรื่องเข้าสคริปต์สุดฮิต: อยากช่วยชาติ อยากแก้รัฐธรรมนูญ ลงเพื่อเลือก ฯลฯ เป็นนกแก้วละเมอ
มันถึงเวลาแล้วที่ผู้สมัครต้องปล่อยมือทุกคน แล้วพิจารณาเลือกคนจากอุดมการณ์ ประสบการณ์ และความรู้รอบทิศในสาขาอาชีพของตัวเอง
เพราะจากนี้มือที่คุณต้องจูงไปด้วยความหวังและความปรารถนาดีที่แท้จริงคือมือของคนไทยทั้งประเทศ
ขอขอบคุณภาพบรรยากาศการเลือกตั้ง จาก Facebook สำนักงานเขตพญาไท
Comments