
“เพื่อนที่รู้ใจใกล้ๆ คุณ หิวเหล้าเมื่อไหร่ก็แวะมา” คือสโลแกนที่ ธเนศ แซ่เซ็ง หรือ DJ Tenet เจ้าของบาร์ Sad Tomorrow บาร์แนวอินดี้อีดีเอ็มขนาดหนึ่งคูหาย่านสะพานควาย ใช้โปรโมทธุรกิจแนวใหม่ที่เขาเป็นผู้คิดค้นและเรียกมันว่า "ป๊อปอัพบาร์รายวัน"
เรื่อง: เบ็น อรรธอลังการ
คำสั่งปิดคลับ บาร์ ตั้งแต่สามทุ่มและห้ามขายเครื่องดื่มอัลกอฮอลล์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ นักดนตรีและดีเจได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าอีกครั้ง โดยเฉพาะบาร์ขนาดเล็กอย่าง Sad Tomorrow ต้องกัดฟันแบกภาระหนักเป็นพิเศษ
“กิจการผับบาร์เป็นธุรกิจแรกที่โดนสั่งปิด แต่พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เรากลับเป็นคิวสุดท้ายที่เขาจะให้เปิด” ธเนศกล่าว “ตอนล็อคดาวน์รอบก่อนผมต้องขายลำโพง อุปกรณ์ดีเจ และแผ่นเสียงส่วนตัวที่สะสมไว้เพื่อหาเงินมาจ่ายลูกน้อง จ่ายค่าเช่าร้าน แต่ผมก็ไม่โทษใครเพราะเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ช่วงนั้นผมกับเมีย และลูกน้องกับดีเจที่ร้านก็เปลี่ยนอาชีพไปวิ่งแกร็บแทน พอคลายล็อคดาวน์เราก็ช่วยกันเอาเงินขับแกร็บไปไถ่ของคืน แต่ได้คืนมาไม่ถึงครึ่งเดือนก็ต้องขายทิ้งอีกเพราะเกิดโควิดรอบสอง เราก็โดนสั่งปิดอีก”

ธเนศเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า วันที่รัฐออกประกาศนั้น ในช่วงสายรัฐบอกแค่ว่าห้ามลูกค้านั่งกินในร้านเกินสามทุ่ม แต่สั่งกลับบ้านได้ เขาและภรรยาจึงช่วยกันชงค็อกเทลใส่ถุงแกงรัดหนังยาง เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อกลับบ้านไปเทใส่แก้วใส่น้ำแข็งพร้อมดื่ม แต่ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกัน มีประกาศใหม่ว่าห้ามกิจการผับ บาร์ ขายอัลกอฮอลล์ทุกกรณี แต่ให้เปลี่ยนไปขายอาหารได้
“การจะให้เปลี่ยนบาร์เป็นร้านอาหาร ก็เหมือนบอกให้เปลี่ยนวัดเป็น Air BnB" ธเนศกล่าว "คือมันใช่ว่าจะทำได้แบบไม่ต้องให้เวลาตั้งตัว เพราะบาร์เล็กๆ ของผมไม่มีครัว ไม่มีอุปกรณ์ทำอาหาร ถ้าจะทำให้ขายอาหารได้ก็ต้องมีเงินทุนสร้างครัว ซึ่งผมไม่เหลือแล้ว แล้วคุณคิดว่ารัฐจะช่วยออกไหมล่ะ ประกาศวันนั้นทำเอาผมกับเมียนั่งมืดแปดด้านอยู่ในร้านจนดึกดื่นเลย”
เขาถอนใจ ก่อนเล่าต่อด้วยรอยยิ้มของผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาว่า
“แต่ในความมืดก็มีแสงสว่างเสมอ และแสงสว่างสำหรับผมในวันนั้น คือแสงไฟจากเซเว่นอีเลฟเว่นฝั่งตรงข้าม”
วันนั้นเอง ที่ธเนศได้คิดถึงความจริงที่ว่า ในขณะที่กิจการผับบาร์น้อยใหญ่ต่างต้องพักกิจการและห้ามขายอัลกอฮอลล์โดยไม่มีข้อแม้ และไม่ได้รับการเยียวยา แต่เซเว่นอีเลฟเว่นยังคงขายอัลกอฮอลล์ถึงเที่ยงคืนได้ตามปกติ และเป็นที่ๆ ไม่เคยมีประวัติคนติดโควิด
ธเนศจึงริเริ่มกิจการ pop-up bar หน้าเซเว่น บริการชงค็อกเทลโดยใช้แผงล็อตเตอรี่ห้อยคอเป็นสเตชั่นชงเครื่องดื่ม ซึ่งให้ความคล่องตัวและเคลื่อนย้ายได้สะดวก โดยเขาจะเริ่มกิจการตอนห้าโมงเย็นและเลิกเที่ยงคืนตามเวลาขายอัลกอฮอลล์ ส่วนสูตรค็อกเทลก็ทำจากเครื่องดื่มที่มีขายในเซเว่น

Comments