and the Dudesweet Oscar goes to…
การคิดว่าหนังที่ดีที่สุดของแต่ละปีคือหนังที่ได้ออสการ์ ก็เหมือนพูดว่าจัสติน บีเบอร์คือนักร้องที่ดีที่สุดในโลก คิดดูละกันว่าหนังอย่าง Shakespere in Love ยังเคยได้ออสการ์เลย (จนถึงบัดนี้ก็ยังคิดว่าปีนั้นเคต บลันเชต ควรได้ออสการ์ ไม่ใช่กวินเน็ต) แต่ถ้าเราเป็นกรรมการออสการ์ในยุค 90s หนังที่เราจะให้เป็น Best Picture ของแต่ละปี มีดังนี้…
เดี๋ยวก่อน เอาเกณฑ์อะไรมาตัดสินรึ? คุณถาม ไม่มี้ (เสียงสูง) เราตอบ
1990 Edward Scissorshands (Tim Burton)
เรื่องราวโรแมนติคของชายผู้มีมือเป็นกรรไกร เพียงสัมผัสอันแผ่วเบาของเขาก็อาจทำให้คุณเสียเลือดได้ แล้วบางทีก็สงสัยนะ ว่าเขาช่วยตัวเองยังไง อย่างไรก็ดี หนังเน้นสไตล์จัดๆ เรื่องนี้ สนุกเหมือนอ่านการ์ตูนสวยๆ เป็นจุดสูงสุดของทิมเบอร์ตันในยุคแรกเริ่ม ก่อนจะเข้าสู่ยุค “ก็โอ” เรื่อยๆ จนมาอู้หูอีกทีก็ตอน Big Fish
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Misery - เคที่ เบตส์โรคจิตได้สุดยอดมาก
หนังที่ชนะออสการ์ในปีนั้น • Dances with Wolves - แหวะ
1991 Backdraft (Ron Howard)
COME ON!!! อย่าเพิ่งยี้ใส่ หนังเรื่องนี้สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อวงการเอฟเฟ็กต์ระเบิดหรือไฟไหม้น้ำร้อนลวกของหนังยุคต่อๆ มา แต่เนื้อเรื่องไม่มีไรมาก —สองพี่น้องนักดับเพลิงเกลียดกันแต่รักกัน ฉากเลิฟซีนพระเอกกับนางเอกเย็ดกันบนรถดับเพลิง ตอนจบไอ้คนพี่ตายในกองเพลิง (กูว่าแล้ว) แต่ที่มันสะจัยเพราะไฟบ้าระห่ำทั้งเรื่องนั้น ล้วนเกิดจากการทำมือ การจะคุมดาราใหญ่อีโก้แรงอย่างพระเพลิงให้อยู่ในโอวาทได้ขนาดนี้ เกิดจากการทดลองเทคนิคสารพัดเพื่อสร้างไฟออกมาให้สวยงามแต่น่าสะพรึง ราวกับมันเป็นสิ่งมีชีวิตอมหิตที่กินวิญญาณมนุษย์เป็นของว่าง อาจจะไม่สวยอื้ออึงเหมือนไฟ CG ยุคนี้ แต่พูดไงดีล่ะ…คือมันก็เหมือนที่เราเลิกดูก๊อดซิล่าเพราะรู้ว่ามันไม่มีคนอยู่ข้างในแล้ว
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Thelma & Louise —หนัง road movie ดราม่า ที่ยังตราตรึงในดวงใจของกะเทยวัยกลางคนในตอนนี้หลายคน • The Silence of the Lambs
หนังที่ชนะออสการ์ในปีนั้น • The Silence of the Lambs –เล่นดีกันทุกคนขนาดนั้นก็ต้องให้เขาไปอ่ะนะ
1992 Singles (Cameron Crowe)
หนังวัยรุ่นวุ่นรักในบรรยากาศยุคพีคของซีนดนตรีกรันจ์ในซีแอตเติ้ลเรื่องนี้ เดินเรื่องด้วยมุมมองความรักของไอ้คนนั้น อีคนนี้ที่อยู่เมืองเดียวกันและรู้จักกันหมด เป็นหนังที่เพลงดี แต่งตัวเท่ แต่หนังทุนต่ำที่เหมาะสำหรับดูไป ทาเล็บตีนไปเรื่องนี้ ไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเชี่ยไรในโลกทั้งสิ้น แต่ที่เราให้ออสการ์เพราะมันมี Eddie Vedder เล่นแว้บๆ
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Basic Instinct – เข้าชิงด้วยฉากฉีกขามหาภัยที่ทำให้ปุ่ม pause ของเครื่องเล่นวิดีโอหลายเครื่องในยุคนั้นพังเป็นปุ่มแรก
หนังที่ชนะออสการ์ในปีนั้น • Unforgiven - ยังไม่ได้ดูเลย แต่คิดว่าคงดี เพราะหนังคาวบอยที่ดีต้องมี Clint Eastwood
1993
Groundhog Day
(Harold Ramis)
จำข้อสอบที่ถูกแชร์กันสนั่นได้ไหม ที่ถามว่า “อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวานจัง วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์ ถามว่าวันนี้เป็นอะไร?” — นั่นล่ะ เรื่องย่อของ Groundhog Day
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Jurassic Park - หนังที่ปลุกไดโนเสาร์เป็นของฮิตจนถึงทุกวันนี้ • Swing Kids - หนังเรื่องการเต้นรำในยุคนาซีที่เจ๊งวินาศสันตะโร แม้จะมีดาราเก่งๆ อย่าง Christian Bale และ Robert Sean Leonard (ไอ้คนนั้นที่เป็นพระเอกเรื่อง Dead Poet Society) แต่ถ้าใครได้ดูก็ต้องอยากเต้นสวิงเป็น
หนังที่ชนะออสการ์ในปีนั้น • Schindler’s List - หนังอลังการอันแสนหดหู่ ที่โรงเรียนไทยควรบังคับนักเรียนดูได้แล้ว เผื่อมันจะได้เลิกแต่งชุดนาซีตอนกีฬาสีหรืองรับน้องกันเสียที
1994
Reality Bites
(Ben Stiller)
วิโนน่า ไรเดอร์เล่นหนังมาตั้งแต่ปลายยุค 80s แต่มากลายเป็นไอค่อนของยุค 90s ด้วยหนังเรื่องนี้ หนังที่พูดเรื่องความสับสนของคน Generation X ที่ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตดี เพราะดันต้องเป็นวัยรุ่นตอนที่ทั้งโลกเองก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไงเหมือนกัน ไม่ว่าจะสังคม สงคราม เศรษฐกิจ หรือเทคโนโลยี เสียดายที่หนังช่วงหลังๆ ผู้กำกับไปขยี้เส้นเรื่องส่วนของความรักเลี่ยนไปหน่อย แต่ก็ยอมหยวนๆ ให้ เพราะมันเป็นหนังที่มีฉากเต้นในมินิมาร์ทที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ หนังออกมาตอนปี 1994 ซึ่งเป็นปีที่ดีมากๆ ของดนตรี เป็นปีแห่ง Oasis, Green Day, Pulp, Weezer, Blur, Nirvana
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Pulp Fiction -ไม่ต้องให้เหตุผลชิมิ
หนังที่ชนะออสการ์ในปีนั้น • Forest Gump - สนุกดี ถ้าปีนั้นไม่มีเรื่องนี้ Pulp Fiction คงชนะ
1995
Chungking Express
(Wong Kar Wai)
ฉายในฮ่องกงครั้งแรกตอนกลางปี 94 แต่ฮิตทั่วโลกตอนปี 95 แล้วหลังจากที่หนังเรื่องนี้หาซื้อได้ที่ร้านแว่นที่จตุจักร หรือร้านลูกแมวมาบุญครอง ทันใดนั้น ศิลปนิพนธ์ของนักศึกษาภาพยนตร์ช่วงปี 1995-2000 ก็ออกมาเป็นหนังหว่อง กาไวกันครึ่งประเทศ หว่อง กาไวเป็นเหมือน Godard แห่งยุค 90s เขาทำหนังเหมือนคนไม่เคยดูหนังฮอลลีวู้ดมาก่อน คือไม่ปรุงแต่งพร่ำเพรื่อ ไม่ว่าจะตัวละคร ฉาก หรือเสียง แต่เท่าที่เช็คคนรอบตัว ส่วนใหญ่จะได้ดูจากวิดีโอกันทั้งสิ้น ถ้าตอนนี้มีใครสักคนเอาฟิล์มเรื่องนี้มาฉายในโรงสักรอบคงดี
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Clueless - ฉากโต้วาทีหน้าชั้นเรียนตอนต้นเรื่องดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ หนังที่ชนะออสการ์ในปีนั้น • Braveheart - และหนังที่เข้าชิงออสการ์ปีนี้อีกเรื่องคือ Babe ที่น่าจะได้ซะกว่าอีหนังรบพุ่งเรื่องนี้ (ป.ล. ชอบสับสนเรื่องนี้กับเรื่อง Dances with Wolves)
1996 Twister (Jan de Bon)
ไม่ว่าจะ ID4, Contact, Twister หรือ Armageddon ล้วนมีคติเดียวกัน คือ “เชื่อในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เชื่อ เพื่ออะเม้ริกาาาา” กล่าวคือ ถ้าเอาเอเลี่ยน ดาวหาง หรือทอร์นาโดออก อีหนังพวกนี้ก็จะไม่เหลืออะไรในชีวิตเลยนะ แต่เหตุผลที่ยังเลือก Twister แทนหนังดีในปีเดียวกันอย่าง Trainspotting ก็เพราะว่าชอบดูพายุหมุนมากกว่าคนเล่นยา เออ แค่นั้นแหละ
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Trainspotting - เป็นหนังที่ดีมาก อันนี้เราทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว • That Thing You Do - แต่…ถ้ามีตังค์ซื้อตั๋วได้แค่เรื่องเดียวก็คงซื้อเรื่องนี้อ่ะ
หนังที่ชนะออสการ์ในปีนั้น • The English Patient - ไม่รู้ชนะได้ไง เป็นหนังที่น่ารำคาญพอๆ กับเพลงบอสซ่าคัฟเวอร์ที่เปิดตามร้านอาหารอยากดูแพง
1997
Made in Hong Kong
(Fruit Chan)
หนังสไตล์สัจนิยมเกี่ยวกับชีวิตของเด็กสก๊อยฮ่องกง ที่ดิบ ซ่า แต่เศร้าสร้อย นี่จะเล่าทำไมยืดเยื้อ เพราะลิงค์ยูทูปที่เอามาแปะนี่มีให้ดูทั้งเรื่องเลย (สงสารผู้กำกับจริง) แต่เพิ่มเติมนิดนึงแล้วกัน ว่าที่สีหนังมันโดดไปโดดมา เพราะผู้กำกับเขาฟิล์มไม่พอ เลยไปขอเศษพิล์มเหลือๆ จากการถ่ายหนังของคนอื่นมาใช้ แล้วฟิล์มแต่ละยี่ห้อสีมันก็ไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจว่าคงได้มาหลายยี่ห้อทีเดียวเลยเป็นแบบนี้ พอได้มารู้เรื่องนี้ทีหลังยิ่งชอบหนังเรื่องนี้เข้าไปอีก
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Gattaca - ชอบความ slick ของหนังและแนวคิดเรื่องการเหยียดพันธุกรรมที่ในอนาคตเป็นไปได้แน่ๆ • Titanic - แม้จะน้ำเน่า เดาได้ แต่ก็สำคัญ ถือเป็น pop-cultural landmark ของยุค 90s จุดหนึ่งเลย
หนังที่ชนะออสการ์ปีนั้น • Titanic - เรื่องนี้ก็สมควรได้แหละ แล้วปีนั้นฮอลลีวู้ดมีแต่หนังเห่ยๆ As Good As It Gets เงี้ย เข้าชิงได้ไง?
1998 Pecker (John Waters)
วิกฤตต้มยำกุ้งจากปีก่อนเน่าหนักในปีนี้ เจ้าของกิจการกลายเป็นคนขายแซนวิชข้างทาง เด็กนอกถูกเรียกตัวกลับเมืองไทยกันอุตลุด แต่เมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจศิลปะมักขึ้นเสมอ (เช่นช่วงปี 2007) เพราะคนรวยเกินจินตนาการไม่เคยได้รับผลกระทบอยู่แล้ว Pecker เสียดสีวงการศิลปะร่วมสมัยในนิวยอร์กปลายยุค 90s ที่อู้ฟู่สวนทางเศรษฐกิจ เล่าเรื่องชีวิตเด็กบ้านๆ ที่ชอบถ่ายรูป แต่กระแสคลั่งอาร์ตกระพือเขาเสียจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ มันเป็นงานของ John Waters ที่นักวิจารณ์ไม่ค่อยชอบ แต่เราว่าดูเพลินดี พวกนักวิจารณ์นี่บางทีก็เยอะ
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Pleasantville - เรื่องเป็นอย่างนี้: สมุติว่ามีหมู่บ้านโลกสวยแห่งหนึ่งชื่อพันทิพ เขาอยู่กันแบบดีๆ ถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่อยู่มาวันหนึ่งก็มีคนอย่างอีน้องเข้าไปบุก • The Truman Show - มีใครอธิบายได้บ้าง ว่าทำไมเรื่องนี้ไม่ได้เข้าชิงหนังยอดเยี่ยม?
หนังที่ชนะออสการ์ปีนั้น • Shakespere in Love - หนังเฮี้ยยยยย เหี้ย เหี้ยๆๆๆๆ ที่ได้ออสการ์ เหี้ยหนักขึ้นไปอีก เมื่อดารานำหญิง (กวินเน็ต) ก็ได้ด้วย จากบทที่ไม่ต้องเบ่งความสามารถอะไรเลย ชนะเพราะเส้น Harvey Weinstein เห็นๆ ดูออกเหอะ
1999 The Matrix (The Wachowskis)
ไม่อยากพูดไรมาก เพราะของเขาดี เป็นที่รู้กัน
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • The Blair Witch Project - ไม่เคยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่ากลัว แต่ชอบสไตล์หนังที่ออกแบบมาพร้อมกับการตลาดแบบแหกตาว่าเป็นเรื่องจริง จนเกิดความกลัวแบบอุปทานหมู่ ที่ไม่กลัวเพราะคนไทยเราโตมากับหนังผีสารพัดด้วยมั้ง เดี๋ยวนี้ฟัง The Shock บนแท็กซี่ดึกๆ ยังไม่รู้สึกไรแล้วเลย ฉะนั้น กะอีแค่ผีแฮนดี้แคมแค่นี้ทำไรไม่ได้หรอก • American Beauty
หนังที่ชนะออสการ์ปีนั้น • American Beauty - ชอบบรรยากาศอึนๆ ของหนัง ชอบที่หนังมันตลกเพราะมันน่าสังเวช เหมือนพวกอยากดังด้วยการเต้นโชว์นมบน FB Live แต่ไม่มีใครกดดู
2000
Memento
(Christopher Nolan)
ทุนสร้าง 9 ล้านเหรียญ เล่นกันอยู่ไม่กี่คน ถ่ายกันไม่กี่โลเคชั่น แต่ทำเงินไป 40 ล้านเหรียญ และรางวัลจาก 24 สถาบันภาพยนตร์ หนังทุนตำ่เล่าเรื่องย้อนศรเรื่องนี้ ได้แรงบันดาลใจมากจากกระเทยทุนต่ำในไทยนางหนึ่ง ที่กินยาคุมย้อนศรด้วยหวังว่าจะทำให้มีนม …พูดเล่นนะ
หนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Dudesweet Oscars ในปีเดียวกัน • Chicken Run - 😀 😀 😀 • American Psycho -ให้เข้าชิงเฉพาะฉากนามบัตร
หนังที่ชนะออสการ์ปีนั้น • Gladiator - จะว่าไปมันก็เป็นหนังฆ่ากันที่มันส์ดีนะ
Comentários