top of page
  • Black Facebook Icon
  • Instagram

Welcome to the world where truth doesn't hurt

10 อันดับงานศิลปะแพงที่สุดแห่งปีโควิด

ดูเหมือนเมื่อใดก็ตามที่เศรษฐกิจถดถอย ธุรกิจศิลปะราคาแพงมักจะไปได้สวย หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดมากคือช่วงปี 2006-2009 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในอเมริกา หรือ "วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์" (เศรษฐกิจพังคล้ายๆ ต้มยำกุ้ง) ตอนนั้นตลาดหุ้นวินาศ แต่ตลาดอาร์ตวิ่งฉิว พีคสุดตอนปี 2007 ที่มูลค่าการประมูลซื้อขายงานศิลปะทั่วโลกอยู่ที่ 195,000 ล้านบาท (6,590 ล้านเหรียญ) ที่ถึงตอนนี้สถิตินั้นก็ยังไม่ถูกทำลาย ไงล่ะ คน 1% บนโลกนี้เขามีเงินซื้อของแต่งบ้านกันประมาณนั้น ดังนั้นจงจำไว้ว่า เวลาเศรษฐีบ่นว่าจน ไม่ต้องไปสงสาร

ส่วนปีที่แล้วที่ทั่วโลกอัตคัตขัดสนด้วยโควิด การซื้อขายงานศิลปะก็ยังไปได้สวยๆ เชิ่ดๆ ไม่เดือดร้อนอะไร จะต่างไปก็แค่เปลี่ยนรูปแบบการประมูลเป็นออนไลน์และทางโทรศัพท์ แม้งานที่ติดท็อปเท็นยังคงเป็นงานศิลปินชั้นครู (Masters) แต่มีสถิติที่น่าสนใจของปีที่ผ่านมาคือ มีนักสะสมที่อายุต่ำว่า 40 เพิ่มมากขึ้น และเม็ดเงินการซื้องานศิลปะเกือบครึ่งอยู่ในเอเชีย โดยเฉพาะจีนดังนั้น ศิลปินไทยคนไหนอยากรุ่งอาจไม่ต้องไปเล็งแค่ตลาดยุโรป อเมริกา เหมือนก่อนแล้ว เอาให้ดังในเอเชียนี่ล่ะ ข่าว BBC เมื่อสองปีก่อนก็บอกว่า จีนมีมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอาทิตย์ละ 2 คน

 

10 อันดับงานศิลปะที่แพงที่สุดแห่งปี 2020

1. Triptych Inspired by the Oresteia of Aeschylus (1981)

โดย Francis Bacon

2,542 ล้านบาท (84.6 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Sotheby’s New York

วันที่ 29 กรกฏาคม 2020


งานชิ้นนี้ผู้ประมูลทางออนไลน์จากเมืองจีนฟาดฟันราคากับผู้ประมูลทางโทรศัพท์อยู่สิบนาที สุดท้ายคนทางออนไลน์จากเมืองจีนก็ได้ไป ราคานี้คือสถิติใหม่ของการซื้องานศิลปะทางออนไลน์


Triptych (ทริปทีค) แปลว่าสามช่องหรือถ้าเป็นสมัยก่อนก็คือภาพเขียนที่ทำเป็นบานพับสามบาน ชื่องานนี้คือ “ภาพสามบานอันได้แรงบันดาลใจจากโอเรสเตสของอคลีลิส” แหมชื่องานดัดจริตดีจริงๆ อ่านยากๆ แบบนี้ตอนอวดเพื่อนคงเริ่ดดีนะ เอาเป็นว่า โอเรสเตสเป็นชื่อผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานกรีกโบราณสักคน ส่วนอคลีสิสเป็นนักประพันธ์ที่โดดเด่นเรื่องงานเขียนแนวโศกนาฏกรรม รู้แค่นี้แหละ รู้จากกูเกิ้ล แล้วก็ไม่สนใจจะรู้ต่อแล้วเพราะไม่อินกับเรื่องพวกนี้ ตำนานกรีกโบราณอย่างเดียวที่เราสนใจคือตำนานเซ้นต์เซย่า

เกี่ยวกับศิลปิน

ฟรานซิส เบคอน (1909-1992) ศิลปินชาวไอร์แลนด์ โดดเด่นด้วยสไตล์เขียนภาพดาร์คๆ ที่ผู้คนในภาพหน้าตาบิดเบี้ยวเหมือนโดนทรมานหรือโดนวิญญาณร้ายเข้าสิง

See more Bacon

 

2. Ten Views of Lingbi Rock (1610)

โดย Wu Bin ราคา 2,267 ล้านบาท (75.4 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Beijing Poly Auction 19 ตุลาคม 2020


จำก้อนหินนำโชคในเรื่อง Parasite ได้ใช่ไหม Lingbi Rock ก็คือชื่อหินที่มีรูปร่างสวยงามแปลกตาคล้ายภูเขา สร้างจินตนาการให้ผู้ดู เป็นของเลอค่าที่คนจีนเขานิยมเล่นกัน ภาพม้วนภู่กันจีนความยาว 27 เมตรชิ้นนี้เป็นภาพเขียน 10 มุมของหินก้อนดังกล่าว ตัวหินหายไปแล้วช่วงที่ราชวงศ์แมนจูเข้าปกครองแผ่นดินจีนต่อจากราชวงศ์หมิง

นอกจากตัวงาน สิ่งที่น่าสนใจของการประมูลนี้คือ สำนักประมูล Beijing Poly Auction นั้นเป็นสำนักประมูลระดับนานาชาติของจีนที่รัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดีเหมือนกันนะ เพราะห้าปีที่ผ่านมาคนจีนเล่นงานศิลปะกันเยอะ จัดสำนักประมูลศิลปะแห่งชาติแบบนี้เงินได้ไม่รั่วไหล

เกี่ยวกับศิลปิน

วู บิน เป็นศิลปินภาพภมิทัศน์ที่โด่งดังในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644)


See more Wu Bin

 

3. Nude with Joyous Painting (1994)

โดย Roy Lichtenstein

ราคา 1,390 ล้านบาท (46 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Christie’s New York

10 กรกฎาคม 2020


งาน “ชะนีเปลือยหลั่ลล้า” นี้เป็นงานชิ้นดังจากยุคหลังๆ ของรอย ความสำคัญของมันคือ พอหมดยุค 60s รอยก็ไม่ค่อยทำงานจากภาพในหนังสือการ์ตูนเพราะหันไปทำอะไรที่ออกเป็นนามธรรมแทน แต่งานช่วงห้าปีก่อนเขาเสียชีวิตชุดนี้ รอยย้อนความหลังกลับไปทำงานภาพจากหนังสือการ์ตูนที่ทำให้เขามีชื่อเสียงอีกครั้ง งานล็อตนี้มีอยู่ 20 ภาพ และเป็นงานล็อตสุดท้าย ก่อนเขาเสียชีวิตในปี 1997 ปีที่ Radiohead ออกอัลบั้ม OK Computer และ Oasis ออกอัลบั้ม Be Here Now ไงแก ไม่รู้จะพูดถึงทำไม ไม่เห็นเกี่ยวกัน

เกี่ยวกับศิลปิน

รอย ริชเช่นสไตน์ เป็นศิลปินป๊อปอาร์ตรุ่นๆ แอนดี้ วอลฮอล์ เขาเอางานโฆษณาและการ์ตูนราคาถูกมาทำเป็นงานศิลปะ เพื่อท้าทายสังคมตอนนั้นว่า ทำไมงานคอมเมอร์เชียลหรืองานการ์ตูนจะนับเป็นศิลปะ (fine art) ไม่ได้

See more Lichtenstein

 

4. Nichols Canyon (1980)

โดย David Hockney

1,234 ล้านบาท (41 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Phillips New York

7 ธันวาคม 2020


ศิลปินชาวอังกฤษที่มีเอกลักษ์เป็นภาพไลฟ์สไตล์สบายๆ สไตล์คนรวยในแคลิฟอร์ รูปนี้ลุงฮอคนี่แกเขียนวิวละแวกหุบเขานิโคลส์ตอนแกย้ายไปอยู่ LA ใหม่ๆ ปกติจะชินกับงานสีพาสเทล แต่งานนี้ช่างดูฉูดฉาดสดใส เห็นแล้วน่าไปขับรถเล่น


เกี่ยวกับศิลปิน

เดวิด ฮอคนี่คือศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งโรงแรม แต่งร้านอาหารของกรุงเทพฯ มากมายในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จะเรียกแกว่าเป็นบิดาแห่ง Kinfolk Style ก็ว่าได้


See more Hockney

 

5. Five Drunken Princes Returning on Horseback (late 13th/early 14th century)

โดย Ren Renfa,

1,189 ล้านบาท (40 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Sotheby’s Hong Kong

8 ตุลาคม 2020


งานอายุ 700 ปีม้วนนี้ยาว 2 เมตร มีชื่อว่า “เจ้าชายเมาห้าคนขี่ม้ากลับบ้าน” หนึ่งในเจ้าชายในภาพได้เป็นจักรพรรดิ์ราชวงศ์ถังในเวลาต่อมา ชื่อภาพบอกว่าห้าคน แต่ในภาพเห็นมี 6 คน สงสัยคนเขียนภาพจะลืมคร็อปรูป

เกี่ยวกับศิลปิน

เอาจริงเราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องศิลปะจีน อยากรู้เยอะกว่านี้ เดี๋ยวคงต้องไปศึกษาเพิ่มให้มากๆ แต่เท่าที่อ่านก็พบว่าเรน เรนฟะ ท่านนี้เป็นศิลปินในราชสำนักที่โด่งดังมาก โดยเฉพาะงานเขียนรูปม้าที่อาจองงดงาม และตอนนี้เห็นยังมีคนเอางานเขามาพิมพ์โปสเตอร์ขายอยู่


See more Renfa

 

6. Untitled [Bolsena] (1969)

โดย Cy Twombly

1,163 ล้านบาท (39 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Christie’s New York

6 ตุลาคม 2020


มาแล้ว อีตาลุง ซาย ทวอมบลี ศิลปินสไตล์เด็กมือบอน นี่เป็นภาพทิวทัศน์เหนือทะเลสาบโบเซลนาทางตอนเหนือของโรม เป็นหนึ่งใน 14 ภาพขนาดใหญ่ที่ศิลปินเขียนตอนที่ยานอพอลโลลงจอดบนดวงจันทร์ ซึ่งศิลปินบอกว่ามันอินสไปร์เขามากจนต้องลุกขึ้นมาทำงาน พอรู้ว่าเขาพูดแบบนี้ มันก็อินสไปร์ฉันมากจนต้องไปหาดูภาพทะเลสาบที่ว่าทั้งมุมบนโลกและบนอวกาศ ไหนใครบอกฉันหน่อยซิ ว่ามันไปวาดจากมุมไหน

เกี่ยวกับศิลปิน งานของซาย ทวอมบลีเป็นสไตล์ ถู ขูด ขีด เขียน และมักจะมีข้อความหรือบทกวีผสมอยู่ นักวิจารณ์ศิลปะชื่นชมกันประมาณว่ามันเป็นการระบายความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา แสดงถึงความเป็นอิสระของจิตใจมนุษย์ ไม่จำเป็นต้องหาความหมายหรือตีความว่าภาพเขียนของเขาต้องการสื่อสารเรื่องอะไร เพราะลายเส้นและรอยขูดขีดเหล่านั้น เป็นการแสดงออกความรู้สึกอันลึกซึ้งของศิลปินโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือการทำงานศิลปะที่ไม่จำเป็น.


Ok. Next!

 

7. Quatre Nus (1950s)

โดย Sanyu

1,002 ล้านบาท (33.3 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Sotheby’s Hong Kong

8 กรกฎาคม 2020


ช่วงห้าปีนี้งานของซานหยูกลับมาเป็นของฮิตในหมูเศรษฐีของนักสะสม (นี่เราก็ว่าจะซื้อมาแขวนบ้านสักสี่ห้ารูป) ส่วนงานชิ้นนี้ดูจากสีผมพอจะตีความได้ว่าเป็นภาพนูดของสตรีต่างสีผิวกัน ทีเด็ดของภาพอยู่ที่รอยขูดรูปดอกไม้บนแบ็คกราวด์สีดำ เพราะภาพนู้ดที่ซานหยูวาดรูปกุ๊กกิ๊กเช่น ไก่ กา ปลา ดอกไม้ผสมไปด้วยมีอยู่ไม่มาก และไม่ค่อยมีอันไหนที่มาแบบแอบๆ แบบนี้

เกี่ยวกับศิลปิน

ศิลปินจีน-ฝรั่งเศสคนนี้มักถูกขนานนามว่า "มาติสส์เมืองจีน" เพราะรูปทรงและลายเส้นน้อยๆ ชิลล์ๆ ของเขามีความเป็นอองรี มาติส (Henry Matisse) แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ในความเป็นตะวันตกของเขามันมีความตะวันออกด้วย งานที่โดดเด่นของซานหยูคือพวกภาพดอกไม้และนู้ดหญิงอวบ ที่ดูน่ารัก ขี้เล่น เห็นแล้วอารมณ์ดี See more Sanyu

 

8. Untitled (1967)

โดย Mark Rothko

939 ล้านบาท (31.2 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Christie’s New York

6 ตุลาคม 2020


ว้อย! นี่ก็อีกคน มันจะอะไรกันนักกันหนากับงานอีตาคนนี้ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนบูชากันจัง สิบปีที่ผ่านมาไม่มีปีไหนที่งานของร็อธโค่จะไม่ติดอันดับภาพที่แพงที่สุดในโลก อันที่จริงงานของเขาถูกลืมไปพักใหญ่จนเมื่อสิบปีที่แล้ว ที่มีศิลปินเอาปากกามาร์คเกอร์ไปเขียนบนงานของเขาที่ Tate Modern ในลอนดอน (ไม่ใช่งานชิ้นนี้) ร็อธโค่ก็กลับมาเป็นข่าวและขึ้นหิ้งอีกครั้ง


เกี่ยวกับศิลปิน

เช่นเดียวกับซาย ทวอมบลี งานของร็อธโค่ถูกจัดอยู่ในหมวด Abstract Impressionism หรืองานแห่งการระบายอารมณ์ความรู้สึกอย่างนามธรรม (นามธรรมแปลว่างานที่ไม่มีรูปทรงที่ดูรู้เรื่อง คนดูต้องใช้ความรู้สึกตัวเองตีความเอง) งานแทบทั้งหมดของเขาจะเป็นงานชิ้นใหญ่ มีสี่เหลี่ยมขอบเบลอๆ สีนึง ทับอยู่บนสี่เหลี่ยมอีกสี ที่นักวิจารณ์ศิลปะมักบอกว่า โอ้ว มันช่างเป็นเทคนิคที่ซับซ้อน ลึกซึ้ง และมีความเป็นปรมัตถ์ (sublime) ด้วยมันสื่อสารถึงความสิ้นหวังและความมืดมนแห่งห้วงลึกในจิตวิญญาณของศิลปิน อีพวกนักวิจารณ์นี่บางทีก็น่ารำคาญ See more Rothko

 

9. Onement V (1952)

โดย Barnett Newman 928 ล้านบาท (30.9 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Christie’s New York

10 กรกฏาคม 2020


ไอ้นี่ก็อีกคน Next!


 

10. Complements (2004–07)

โดย Brice Marden

929 ล้านบาท (30.9 ล้านเหรียญ)

จัดประมูลโดยสำนักประมูล Christie’s New York

10 กรกฏาคม 2020


ผลงานยึกยือเวียนหัวเหมือนภาพขยายหมอยย้อมสี (น่าจะเป็นหมอยเด็กเรฟ) ของศิลปินคนนี้ แม้จะดูยุ่งเหยิงแต่มันก็รู้สึกมินิมัล พวก texture ที่ไม่สม่ำเสมอของการระบายสีเส้นหรือสีแบ็คกราวด์ก็ทำให้งานดูเป็นคนขี้หงุดหงิดดี แต่เราชอบงานเขาเวลามันเป็นเส้นวุ่นวายบนพื้นสีอ่อนมากกว่า


เกี่ยวกับศิลปิน

ไบรซ์ มาร์เด็นบอกว่างานของเขาได้รับอิทธิพลจากภาพอักขระหมึกจีน โดยมากงานเขาจะทำงานสีสดชิ้นใหญ่ที่เล่นกับพื้นที่ยุ่งเหยิงและพื้นที่ว่าง แต่พอเขาพบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง งานที่เคยสดใสก็ขมุกขมัวดำดิ่ง ลายเส้นยึกยือที่เคยคมชัดก็เบลอเหมือนวาดด้วยฝุ่น แต่มันดูมีพลังและหนักแน่นมาก มันเหมือนเขาใช้ศิลปะเป็นกำลังใจให้สู้กับมะเร็งอย่างเข้มแข็ง ขอให้แข็งแรงไวๆ นะครับคุณตา

댓글


bottom of page